คำแนะนำ

มาตรการคว่ำบาตรของสหราชอาณาจักร: คำแนะนำสำหรับธุรกิจที่ไม่ใช่ของสหราชอาณาจักร

ข้อมูลเกี่ยวกับมาตรการคว่ำบาตรของสหราชอาณาจักร เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติตามข้อกำหนดสำหรับธุรกิจที่ไม่ใช่ของสหราชอาณาจักรซึ่งดำเนินกิจการนอกเขตสหราชอาณาจักร

คำแนะนำฉบับนี้จัดทำโดยกระทรวงการต่างประเทศและการพัฒนาแห่งสหราชอาณาจักรเพื่อช่วยธุรกิจที่ตั้งอยู่ในประเทศที่สาม (ได้แก่ ประเทศที่อยู่นอกสหราชอาณาจักรหรือรัสเซีย) ที่ต้องการหลีกเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตรของสหราชอาณาจักร  

เอกสารฉบับนี้เป็นเพียงคำแนะนำทั่วไป ด้วยเหตุนี้ คุณจึงควรศึกษากฎหมายที่เกี่ยวข้องซึ่งมีผลใช้บังคับในปัจจุบันประกอบด้วย  

แม้ได้พยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลในคำแนะนำฉบับนี้ถูกต้องสมบูรณ์ อย่างไรก็ตาม เอกสารฉบับนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำทางกฎหมาย และไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงทางกฎหมายได้ หากคุณมีข้อสงสัยเกี่ยวกับข้อผูกมัดของตนในกรณีใดก็ตาม คุณควรขอคำปรึกษาทางกฎหมายจากผู้เชี่ยวชาญ 

คำแนะนำฉบับนี้จัดทำขึ้นเป็นการเฉพาะเพื่อใช้กับมาตรการคว่ำบาตรที่มีเป้าหมายต่อรัสเซีย อย่างไรก็ตาม คุณควรตระหนักว่าสหราชอาณาจักรยังมีมาตรการคว่ำบาตรประเภทอื่น ๆ อีกด้วย สามารถดู บัญชีรายชื่อของมาตรการคว่ำบาตรของสหราชอาณาจักรทั้งหมด ได้ที่เว็บไซต์ GOV.UK 

คำแนะนำฉบับนี้มีคำแปลจากภาษาต่าง ๆ ให้บริการด้วยเช่นกัน คุณสามารถเลือกเปลี่ยนภาษาได้ที่ด้านบนของหน้าเว็บไซต์นี้ คำแปลของคำแนะนำของสหราชอาณาจักรเป็นข้อมูลที่ปรับปรุง ณ วันที่ที่ระบุไว้ คำแนะนำฉบับภาษาอังกฤษถือเป็นเอกสารต้นฉบับซึ่งออกโดยรัฐบาลสหราชอาณาจักร ทั้งนี้ คุณมีความรับผิดชอบในการตรวจสอบว่าเอกสารคำแนะนำต้นฉบับภาษาอังกฤษมีการแก้ไขเพิ่มเติมหรือไม่ 

1. วัตถุประสงค์ของคำแนะนำฉบับนี้ 

คำแนะนำฉบับนี้ถูกเผยแพร่โดยรัฐบาลสหราชอาณาจักรเพื่อช่วยให้ธุรกิจที่ตั้งอยู่ในประเทศที่สามรับทราบในประเด็นดังต่อไปนี้: 

  • ความเสี่ยงในการสูญเสียการเข้าถึงสินค้าและบริการซึ่งจัดหาโดยธนาคารและผู้จัดหาในสหราชอาณาจักรหรือระหว่างประเทศ ความเสี่ยงดังกล่าวอาจเกิดขึ้น หากอีกฝ่ายเกิดความกังวลว่าคุณอาจติดต่อกับบุคคลที่ถูกคว่ำบาตร หรือส่งออกสินค้าที่ถูกคว่ำบาตรไปยังรัสเซีย 

  • ขั้นตอนที่สามารถนำไปปฏิบัติเพื่อจัดการความเสี่ยงในการหยุดชะงักทางธุรกิจอย่างรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นกับคุณ  

2. บริบทสถานการณ์ 

สหราชอาณาจักรและคู่ค้าระหว่างประเทศได้ใช้บังคับมาตรการคว่ำบาตรในระดับที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนเพื่อตอบโต้การรุกรานยูเครนของรัสเซีย สหราชอาณาจักรได้กำหนดมาตรการคว่ำบาตรต่อบุคคลและนิติบุคคลกว่า 2,000 ราย และได้ออกข้อจำกัดที่มีต่อกิจกรรมทางการค้าและเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องกับรัสเซียไว้เป็นวงกว้าง 

มาตรการคว่ำบาตรของสหราชอาณาจักรมีวัตถุประสงค์ดังนี้:  

  • เพื่อกดดันให้รัสเซียยุติการกระทำซึ่งทำให้ยูเครนขาดเสถียรภาพ หรือบ่อนทำลายบูรณภาพแห่งดินแดน อธิปไตยและเอกราชของยูเครน และ  

  • เพื่อผลักดันให้รัสเซียจ่ายค่าชดเชยแก่ยูเครน สำหรับความเสียหาย ความสูญเสียหรือการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นจากการรุกรานของรัสเซียนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2022  

สหราชอาณาจักรได้แสดงออกอย่างชัดเจนว่า มาตรการคว่ำบาตรจะยังคงมีผลบังคับใช้ต่อไปจนกว่าจะบรรลุวัตถุประสงค์ข้างต้น 

3. เหตุผลที่ประเด็นนี้มีความสำคัญต่อธุรกิจที่ตั้งอยู่ในประเทศที่สาม 

3.1. การหลบเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตรของสหราชอาณาจักร 

รัสเซียใช้ความพยายามอย่างมากในการหลบเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตร และยังคงจัดหาสินค้าทางทหาร สินค้าที่ใช้ได้ทั้งในเชิงพาณิชย์และทางทหาร และสินค้าสำคัญอื่น ๆ จากประเทศตะวันตกผ่านประเทศที่สาม รวมถึงเทคโนโลยีที่ใช้ในสนามรบ รัสเซียยังอาศัยยุทธวิธีลวงประเภทต่าง ๆ เช่น เส้นทางขนส่งทางอ้อม การปลอมแปลงการใช้ประโยชน์ปลายทางของสินค้า และเครือข่ายเพื่อการหลบเลี่ยงในระดับมืออาชีพ  

ตัวอย่างวิธีการหลบเลี่ยงอาจเป็นดังนี้: 

  1. บริษัทในประเทศที่สามอาจได้รับคำสั่งซื้อจากผู้นำเข้าในรัสเซีย โดยเป็นสินค้าที่อยู่ภายใต้มาตรการคว่ำบาตรของสหราชอาณาจักร จึงไม่สามารถสั่งซื้อสินค้าจากสหราชอาณาจักรได้โดยตรง  

  2. บริษัทในประเทศที่สามสั่งซื้อสินค้าจากผู้จัดหาในสหราชอาณาจักร โดยมิได้แจ้งให้ผู้จัดหาหรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอื่น ๆ (เช่น ธนาคาร บริษัทประกันภัย บริษัทขนส่ง) ทราบว่าผู้ใช้ประโยชน์ปลายทางของสินค้าดังกล่าวอยู่ในรัสเซีย  

  3. ผู้จัดหาในสหราชอาณาจักรส่งออกสินค้าไปยังบริษัทดังกล่าวในประเทศที่สาม ซึ่งส่งสินค้าเหล่านั้นออกไปยังรัสเซียอีกทอดหนึ่ง  

การกระทำในลักษณะนี้และการกระทำอื่นในทำนองเดียวกัน ถือเป็นการหลบเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตร ความเสี่ยงเหล่านี้อาจส่งผลกระทบต่อทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในห่วงโซ่อุปทาน โดยไม่คำนึงถึงรูปแบบของการมีส่วนร่วมหรือขนาดของกิจการ สหราชอาณาจักรพร้อมด้วยประเทศสมาชิก G7 ได้แถลงไว้ว่าจะดำเนินการเพื่อจัดการกับการหลบเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตร  

3.2. บุคคลที่ต้องปฏิบัติตามมาตรการคว่ำบาตรของสหราชอาณาจักร 

มาตรการคว่ำบาตรของสหราชอาณาจักรถือเป็นตราสารทางกฎหมายของสหราชอาณาจักร สหราชอาณาจักรจะไม่ดำเนินกระบวนการบังคับคดีทางแพ่งหรือทางอาญาต่อผู้ที่อยู่ภายนอกสหราชอาณาจักรในกรณีที่มีการละเมิดมาตรการคว่ำบาตรของสหราชอาณาจักร เว้นแต่บุคคลเหล่านั้นเป็น 

  • พลเมืองของสหราชอาณาจักร ตัวอย่างเช่น เป็นบุคลากรหรือกรรมการของธุรกิจที่ไม่ได้จดทะเบียนในสหราชอาณาจักร 

  • บริษัทที่จดทะเบียนในสหราชอาณาจักร ซึ่งรวมไปถึง สาขาในต่างประเทศที่ไม่ได้จดทะเบียนในสหราชอาณาจักร (บริษัทย่อยที่จดทะเบียนนอกสหราชอาณาจักรมักไม่อยู่ภายใต้เขตอำนาจของสหราชอาณาจักร เว้นแต่กิจกรรมของบริษัทดังกล่าวเข้าเกณฑ์ในข้อใดข้อหนึ่งด้านล่างนี้)  

  • ดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจบางส่วนภายในสหราชอาณาจักร ตัวอย่างเช่น การเดินทางเข้ามายังสหราชอาณาจักรเพื่อเจรจาหรือทำสัญญากับผู้จัดหา 

  • ซื้อบริการ เช่น บริการประกันภัย บริการทางธนาคาร บริการชำระเงิน หรือบริการทางกฎหมายจากตลาดของสหราชอาณาจักร แต่ใช้บริการเหล่านี้ในต่างประเทศ 

หากเข้าเกณฑ์ใดเกณฑ์หนึ่งที่ระบุไว้ข้างต้น บุคคลที่เกี่ยวข้องอาจต้องรับโทษหรือถูกดำเนินคดีในสหราชอาณาจักร อาจรวมไปถึง ถูกเรียกเก็บค่าปรับในอัตราที่สูงในกรณีที่มีการละเมิดมาตรการคว่ำบาตรของสหราชอาณาจักร บุคคลเหล่านี้ควรมีมาตรการที่เข้มงวดและมีประสิทธิผล เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีสินค้าหรือบริการใดที่จัดส่งไปยังประเทศที่สามถูกส่งต่อไปยังรัสเซียหรือบุคคลที่ถูกคว่ำบาตร ในคำแนะนำฉบับนี้ คำว่า “บุคคลของสหราชอาณาจักร” จะใช้เรียกแทนบุคคลที่อยู่ภายใต้เขตอำนาจศาลของสหราชอาณาจักร 

3.3. ความเสี่ยงต่อธุรกิจที่ตั้งอยู่ในประเทศที่สาม  

แม้ว่าบุคคลของสหราชอาณาจักรจะมีหน้าที่ตามกฎหมายในการปฏิบัติตามมาตรการคว่ำบาตรของสหราชอาณาจักร อย่างไรก็ตาม บุคคลที่ไม่ใช่บุคคลของสหราชอาณาจักรซึ่งเอื้อประโยชน์ต่อการหลบเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตร มีความเสี่ยงบางประการ ดังต่อไปนี้ 

3.3.1. คุณอาจถูกคว่ำบาตร  

สหราชอาณาจักรอาจดำเนินการใช้มาตรการคว่ำบาตรโดยตรงต่อคุณในฐานะบุคคลธรรมดาหรือต่อนิติบุคคลที่คุณเป็นเจ้าของหรือมีอำนาจควบคุม หากคุณมีส่วนเกี่ยวข้องกับกิจกรรมใด ๆ ที่อาจเป็นการสนับสนุนการรุกรานยูเครนของรัสเซีย  

สหราชอาณาจักรได้ใช้บังคับมาตรการคว่ำบาตรโดยอิงตามหลักเกณฑ์ดังกล่าวต่อธุรกิจในประเทศที่สามหลายประเทศ ซึ่งถูกระบุว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับกิจกรรมที่เป็นการบ่อนทำลายวัตถุประสงค์ของมาตรการคว่ำบาตรของสหราชอาณาจักรที่มีต่อรัสเซีย  

แม้ว่าคุณจะไม่ใช่บุคคลของสหราชอาณาจักร การถูกกำหนดอยู่ภายใต้มาตรการคว่ำบาตรของสหราชอาณาจักรอาจส่งผลร้ายแรงต่อธุรกิจและการติดต่อทางการเงินของคุณ มาตรการคว่ำบาตรของสหราชอาณาจักรมีผลผูกพันกับพลเมืองและนิติบุคคลของสหราชอาณาจักรในทุกพื้นที่ ฉะนั้น หากคุณถูกคว่ำบาตรโดยสหราชอาณาจักร จะทำให้พลเมืองของสหราชอาณาจักร ธุรกิจ และบุคคลอื่นใดในสหราชอาณาจักรไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึงระบบเศรษฐกิจของสหราชอาณาจักร นอกจากนี้ ธุรกิจระหว่างประเทศจำนวนมากอาจเลือกที่จะไม่ดำเนินธุรกิจกับคุณโดยสมัครใจ ซึ่งบ่อยครั้งพฤติกรรมดังกล่าวมักถูกเรียกว่าการเลี่ยงความเสี่ยง  

ในทางปฏิบัติ อาจหมายถึง  

  • ธุรกิจทุกแห่งในสหราชอาณาจักรจะต้องหรือธุรกิจระหว่างประเทศจำนวนมากอาจปฏิเสธการดำเนินธุรกิจใด ๆ กับคุณ รวมถึงกับนิติบุคคลที่คุณเป็นเจ้าของหรือมีอำนาจควบคุม ในกรณีนี้อาจหมายถึงธุรกิจในสหราชอาณาจักรจะปฏิเสธที่จะจัดหาสินค้าให้แก่คุณ สั่งซื้อสินค้าจากคุณ ซ่อมแซมหรือให้บริการอุปกรณ์ของคุณ หรือให้บริการทางวิชาชีพและธุรกิจส่วนใหญ่แก่คุณ  

  • ธนาคารทุกแห่งในสหราชอาณาจักรจะต้องและธนาคารระหว่างประเทศหลายแห่งอาจอายัดทรัพย์สินใด ๆ ของคุณที่ธนาคารเหล่านั้นถือครองอยู่ และปฏิเสธการให้บริการใด ๆ แก่คุณ 

  • หากการให้บริการประกันภัยหรือการขนส่งสินค้าดำเนินการโดยบริษัทในสหราชอาณาจักร บริษัทเหล่านั้นจะปฏิเสธการดำเนินธุรกิจกับคุณเช่นกัน ในกรณีที่คุณหรือคู่ค้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือสินค้าที่เกี่ยวข้องอยู่ภายใต้มาตรการคว่ำบาตร 

3.3.2. คุณอาจถูกพิจารณาว่าเป็นผู้มีความเสี่ยงสูงโดยผู้จัดหาในสหราชอาณาจักร 

มาตรการคว่ำบาตรของสหราชอาณาจักรอาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจของคุณ หากคุณดำเนินการทางธุรกิจใด ๆ โดยไม่คำนึงถึงข้อกำหนดของมาตรการคว่ำบาตรของสหราชอาณาจักร  

โดยเฉพาะในกรณีที่มีบุคคลของสหราชอาณาจักรเข้ามาเกี่ยวข้อง เนื่องจากบุคคลเหล่านี้จะต้องรับรองว่ากิจกรรมใด ๆ ของตนจะไม่เป็นการหลบเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตรของสหราชอาณาจักร หากบริษัทในสหราชอาณาจักร (รวมถึง ธนาคารในสหราชอาณาจักร) จัดหาสินค้าหรือบริการให้แก่คุณ บริษัทดังกล่าวจะต้องการการรับรองจากคุณว่าสินค้าหรือบริการเหล่านั้นจะไม่ถูกส่งต่อไปยังรัสเซีย หรือเป็นประโยชน์ต่อบุคคลที่ถูกคว่ำบาตรโดยสหราชอาณาจักรหรือรัสเซีย หรือ “บุคคลที่มีความเกี่ยวข้องกับรัสเซีย” ซึ่งในกรณีนี้จะถือเป็นการละเมิดมาตรการคว่ำบาตรของสหราชอาณาจักร (“บุคคลที่มีความเกี่ยวข้องกับรัสเซีย” หมายถึง บุคคลหรือกลุ่มบุคคลซึ่งอยู่อาศัยหรือมีถิ่นพำนักอาศัยในรัสเซีย หรือนิติบุคคลที่จดทะเบียนหรือจัดตั้งภายใต้กฎหมายของรัสเซีย หรือมีที่อยู่ในรัสเซีย) 

ด้วยเหตุนี้ บริษัทในสหราชอาณาจักรบางแห่งอาจดำเนินการด้วยความระมัดระวัง (ซึ่งบางครั้งเรียกว่า “การเลี่ยงความเสี่ยง”) และปฏิเสธที่จะดำเนินธุรกิจกับคุณด้วยเหตุผลต่อไปนี้ เช่น 

  • บุคคลที่ถูกคว่ำบาตรเป็นผู้ถือหุ้นส่วนน้อยในบริษัทของคุณ 

  • คุณมีความเกี่ยวโยงกับบุคคลที่ถูกคว่ำบาตร 

  • ทางบริษัทมีข้อกังวลอื่นใดที่ไม่สามารถแก้ไขให้เป็นที่พอใจได้ 

  • ทางบริษัทมีนโยบายภายในที่กำหนดให้บริษัทต้องเลือกดำเนินการด้วยความระมัดระวัง 

ดังนั้น บุคคลของสหราชอาณาจักรจำนวนมากจะปฏิเสธที่จะดำเนินธุรกิจกับคุณ หากคุณไม่สามารถแสดงให้เห็นว่าคุณมีมาตรการที่มีประสิทธิผลในการป้องกันไม่ให้สินค้าหรือบริการที่ได้รับจากบุคคลเหล่านั้นถูกส่งต่อไปยังรัสเซีย หรือบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องกับรัสเซีย ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวอาจเกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นการส่งโดยตรงจากคุณเองหรือส่งทางอ้อมผ่านบุคคลอื่นในห่วงโซ่อุปทานของคุณ ซึ่งอาจส่งผลให้คุณเข้าถึงสิ่งต่อไปนี้ได้อย่างยากลำบาก ตัวอย่างเช่น  

  • ชิ้นส่วนประกอบที่ใช้ในกระบวนการผลิตของคุณ 

  • สินค้าที่คุณทำการค้า 

  • การลงทุน 

  • การประกันภัย 

  • บริการธนาคาร 

  • บริการจัดหาเงินทุน 

  • บริการชำระหนี้ 

  • บริการชำระเงิน 

  • บริการซื้อขายเงินตราต่างประเทศ  

  • ตราสารเครดิต  

  • การบำรุงรักษาและอะไหล่สำหรับเครื่องจักร  

หากบุคคลของสหราชอาณาจักรไม่สามารถแก้ข้อกังวลให้เป็นที่พอใจได้ บุคคลเหล่านั้นอาจเลือกยุติการค้ากับธุรกิจของคุณทั้งหมด รวมถึงการนำเข้าสินค้าของคุณเข้าสู่สหราชอาณาจักร  

นอกจากนี้ เป็นไปได้ที่ธุรกิจที่ไม่ได้จดทะเบียนในสหราชอาณาจักรบางแห่งจะปฏิเสธการดำเนินธุรกิจกับคุณ หากคุณไม่สามารถแสดงให้เห็นว่าคุณได้ให้ความสำคัญกับมาตรการคว่ำบาตรของสหราชอาณาจักร โดยเฉพาะในกรณีของสถาบันการเงิน เช่น ธนาคาร อาจปฏิเสธการดำเนินธุรกรรมใด ๆ ที่เสี่ยงต่อการละเมิดหรือบ่อนทำลายมาตรการคว่ำบาตรของสหราชอาณาจักร 

ประเด็นที่ควรคำนึงถึงอีกประการหนี่งคือ กฎหมายภายในของประเทศที่สามบางประเทศอาจมีข้อบังคับเกี่ยวกับกิจกรรมที่มีลักษณะเดียวกันกับกิจกรรมที่ถูกห้ามโดยมาตรการคว่ำบาตรของสหราชอาณาจักร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กฎหมายเหล่านั้นอาจจำกัดว่าสินค้าหรือบริการใดสามารถส่งออกหรือส่งออกต่อไปยังรัสเซียได้ คุณควรขอคำปรึกษาทางกฎหมายที่เหมาะสมในเขตอำนาจศาลของประเทศที่คุณดำเนินธุรกิจอยู่เพื่อตรวจสอบว่ากรณีของคุณเข้าข่ายหรือไม่ 

4. ภาพรวมมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซียของสหราชอาณาจักร 

จากความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับธุรกิจที่ตั้งอยู่ในประเทศที่สามซึ่งได้ระบุไว้ในข้อก่อนหน้านี้ ในข้อนี้จึงเป็นการอธิบายลักษณะสำคัญของมาตรการคว่ำบาตรของสหราชอาณาจักร การทำความเข้าใจวิธีการดำเนินการของมาตรการคว่ำบาตรของสหราชอาณาจักรถือเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้คุณทราบถึงขั้นตอนที่ควรนำไปปฏิบัติ หากคุณประสงค์จะจัดการกับความเสี่ยงที่ระบุไว้ข้างต้น คำแนะนำในทางปฏิบัติเกี่ยวกับขั้นตอนดังกล่าวถูกระบุในข้อที่ 6 

รัฐบาลสหราชอาณาจักรได้จัดทำคำแนะนำตามกฎหมายเกี่ยวกับมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซีย อย่างไรก็ตาม คำแนะนำดังกล่าวมิได้ครอบคลุมประเด็นทั้งหมด รัฐบาลยังได้จัดทำคำแนะนำที่มีรายละเอียดเพิ่มเติมในบางประเด็น ซึ่งสามารถดูรายการข้อมูลได้ในข้อที่ 6 หากคุณมีความไม่แน่ใจเกี่ยวกับความรับผิดชอบของคุณหรือความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับมาตรการคว่ำบาตรดังกล่าว คุณควรขอคำปรึกษาทางกฎหมาย  

4.1. ฐานทางกฎหมาย 

มาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซียของสหราชอาณาจักรได้กำหนดไว้ใน ข้อบังคับว่าด้วยรัสเซีย (มาตรการคว่ำบาตร) (การถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป) ค.ศ. 2019 (ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกว่า “ข้อบังคับ”) และฉบับแก้ไขเพิ่มเติมที่จะจัดทำขึ้นเป็นครั้งคราวไป คุณสามารถเข้าถึงเนื้อหาฉบับเต็มของข้อบังคับผ่านลิงก์ข้างต้น หากคุณประสงค์จะตรวจสอบประเด็นในข้อบังคับเป็นการเฉพาะ เช่น การตรวจสอบว่าสินค้าที่คุณกำลังซื้อขายอยู่นั้นถูกคว่ำบาตรหรือไม่ โปรดดูคำแนะนำเกี่ยวกับการตรวจสอบข้อกฎหมายนี้ในข้อที่ 6.1 

มาตรการคว่ำบาตรของสหราชอาณาจักรมีประเภทของมาตรการที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับธุรกิจที่ตั้งอยู่ในประเทศที่สามอยู่สองประเภท ได้แก่: 

  • การกำหนดให้มีการอายัดทรัพย์สิน 

  • การซื้อขายสินค้าที่มีความเสี่ยงสูง  

รายละเอียดของแต่ละมาตรการคว่ำบาตรทั้งสองประเภทนี้จะถูกระบุไว้ด้านล่าง รวมถึงเนื้อหาโดยสรุปของมาตรการคว่ำบาตรของสหราชอาณาจักประเภทอื่น ๆ ที่สำคัญ 

4.2. มาตรการคว่ำบาตรทางการเงิน 

4.2.1. การกำหนดให้มีการอายัดทรัพย์สิน 

มาตรการคว่ำบาตรโดยการอายัดทรัพย์สินมีบทบาทสำคัญในการมุ่งเป้าไปยังบุคคลและนิติบุคคลที่ให้การสนับสนุนกองทัพของรัสเซียในการรุกรานยูเครน โดยจะตัดขาดไม่ให้บุคคลหรือนิติบุคคลดังกล่าวเข้าถึงแหล่งเงินทุนและธุรกิจ บุคคลและนิติบุคคลที่อยู่ภายใต้มาตรการอายัดทรัพย์สินจะถูกเรียกว่า บุคคล “ที่ถูกกำหนด” หรือ “ที่ถูกคว่ำบาตร” 

ตามที่ระบุไว้ในข้อที่ 3 ข้างต้น หากบริษัทในสหราชอาณาจักรต้องจัดหาสินค้าหรือบริการแก่บุคคลที่อยู่ในประเทศที่สาม ผู้จัดหาในสหราชอาณาจักร จะต้องได้รับการรับรองว่าสินค้าหรือบริการดังกล่าวจะไม่ถูกส่งต่อไปยังรัสเซีย หรือเป็นประโยชน์ต่อบุคคลที่ถูกกำหนดโดยสหราชอาณาจักร หากไม่สามารถได้รับการรับรองที่เพียงพอได้ ผู้จัดหาในสหราชอาณาจักร รวมถึงธนาคารในสหราชอาณาจักรที่เกี่ยวข้องมีแนวโน้มที่จะปฏิเสธที่จะดำเนินธุรกิจดังกล่าว  

4.2.2. วิธีตรวจสอบบุคคลที่ถูกคว่ำบาตร 

รายชื่อบุคคลและนิติบุคคลทั้งหมดที่ถูกคว่ำบาตรโดยสหราชอาณาจักรจะได้รับการระบุไว้ในบัญชีรายชื่อที่ถูกกำหนดภายใต้มาตรการคว่ำบาตรของสหราชอาณาจักร รายชื่อดังกล่าวจะได้รับการปรับปรุงข้อมูลให้เป็นปัจจุบันโดยทันทีไม่ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นเมื่อใด ซึ่งการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเกิดขึ้นบ่อยครั้ง สามารถดูคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีตรวจสอบว่าคู่ค้าหรือลูกค้ารายปัจจุบันหรือในอนาคตของคุณถูกคว่ำบาตรหรือไม่ในข้อที่ 5.3 รัฐบาลสหราชอาณาจักรยังได้จัดทำระบบแจ้งเตือนทางอีเมลเพื่อแจ้งเตือนธุรกิจต่าง ๆ ให้ทราบถึงการเปลี่ยนแปลงในบัญชีรายชื่อที่ถูกคว่ำบาตรภายใต้มาตรการคว่ำบาตรของสหราชอาณาจักร  

4.2.3. ความเป็นเจ้าของและอำนาจควบคุม 

 ในข้อนี้จะอธิบายถึงแนวคิดเรื่อง “ความเป็นเจ้าของและอำนาจควบคุม” เนื่องจากมาตรการการกำหนดผู้ถูกคว่ำบาตรของสหราชอาณาจักรมิได้ใช้บังคับเฉพาะกับบุคคลที่ถูกคว่ำบาตรตามชื่อของตนเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมถึงนิติบุคคลที่บุคคลดังกล่าวเป็นเจ้าของหรือมีอำนาจควบคุมด้วย ทั้งนี้ เพื่อให้แน่ใจว่ามีการปฏิบัติตามมาตรการ จึงจำเป็นต้องมีการตรวจสอบวิเคราะห์สถานะเพิ่มเติมนอกเหนือจากการตรวจสอบในบัญชีรายชื่อที่ถูกกำหนดภายใต้มาตรการคว่ำบาตรของสหราชอาณาจักรเพียงอย่างเดียว สามารถดูคำแนะนำเพิ่มเติมได้ในข้อที่ 5.3 

 การอายัดทรัพย์สินมิได้ใช้บังคับเฉพาะกับบุคคลที่ถูกระบุไว้ในบัญชีรายชื่อที่ถูกกำหนดภายใต้มาตรการคว่ำบาตรของสหราชอาณาจักรเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมถึงนิติบุคคลในกรณีดังต่อไปนี้  

  • บุคคลที่ถูกกำหนดถือครองหุ้นมากกว่าร้อยละ 50 ของจำนวนหุ้น หรือมีสิทธิออกเสียงในนิติบุคคลนั้นทั้งโดยทางตรงหรือทางอ้อม  

  • บุคคลที่ถูกกำหนดมีสิทธิในการแต่งตั้งหรือถอดถอนคณะกรรมการส่วนใหญ่ของนิติบุคคลนั้นทั้งโดยทางตรงหรือทางอ้อม หรือ  

  • มีเหตุอันควรให้เชื่อว่าบุคคลที่ถูกกำหนดสามารถทำให้การดำเนินงานต่าง ๆ ของนิติบุคคลเป็นไปตามความประสงค์ของตนได้ รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการตีความกรณีดังกล่าวถูกระบุไว้ในคำแนะนำทั่วไปว่าด้วยมาตรการคว่ำบาตรทางการเงินของสหราชอาณาจักร 

นิติบุคคลเหล่านี้อาจไม่ได้ถูกคว่ำบาตรตามชื่อของนิติบุคคลเอง จึงอาจไม่ปรากฏชื่อของนิติบุคคลเหล่านี้ในบัญชีรายชื่อที่ถูกกำหนดภายใต้มาตรการคว่ำบาตรของสหราชอาณาจักร อย่างไรก็ตาม นิติบุคคลดังกล่าวจะต้องได้รับการปฏิบัติในทำนองเดียวกันกับบุคคลที่อยู่ภายใต้มาตรการอายัดทรัพย์สิน 

หากบุคคลที่ถูกกำหนดตั้งแต่สองรายขึ้นไปถือหุ้นรวมกันเกินกว่าร้อยละ 50 ของจำนวนหุ้นในนิติบุคคล แต่บุคคลที่ถูกคว่ำบาตรแต่ละรายถือหุ้นต่ำกว่าร้อยละ 50 นิติบุคคลนั้นมักจะไม่ถือว่าอยู่ภายใต้ความเป็นเจ้าของของบุคคลที่ถูกกำหนด อย่างไรก็ตาม หากมีหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่ามีข้อตกลงร่วมกันระหว่างบุคคลเหล่านั้นหรือถือหุ้นร่วมกัน ในกรณีดังกล่าว จะถือว่านิติบุคคลอยู่ภายใต้ความเป็นเจ้าของของบุคคลที่ถูกกำหนด  

ก่อนที่จะดำเนินธุรกรรมใด ๆ ขอแนะนำเป็นอย่างยิ่งให้ตรวจสอบในทั้งสองประเด็นดังต่อไปนี้ 

  • คู่ค้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในการดำเนินธุรกรรมนั้นได้รับการระบุชื่อไว้ในบัญชีรายชื่อที่อยู่ภายใต้มาตรการคว่ำบาตรของสหราชอาณาจักรหรือไม่ และ 

  • คู่ค้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอยู่ภายใต้ความเป็นเจ้าของหรืออำนาจควบคุมของบุคคลอื่นใดที่ถูกระบุไว้ในบัญชีรายชื่อภายใต้มาตรการคว่ำบาตรของสหราชอาณาจักรหรือไม่  

ประเด็นนี้มีความสำคัญโดยเฉพาะยิ่งกับการดำเนินธุรกรรมโดยธุรกิจที่ตั้งอยู่ในประเทศที่สามซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับคู่ค้าในสหราชอาณาจักร เนื่องจากบุคคลของสหราชอาณาจักรจะถูกห้ามไม่ให้กระทำการดังต่อไปนี้  

  • ดำเนินการกับเงินทุนหรือทรัพยากรทางเศรษฐกิจที่เป็นของ หรืออยู่ภายใต้ความเป็นเจ้าของ อยู่ภายใต้การครอบครองครองหรืออำนาจควบคุมของบุคคลที่ถูกกำหนด  

  • จัดหาเงินทุนหรือทรัพยากรทางเศรษฐกิจให้ หรือกระทำการใดเพื่อเป็นประโยชน์ต่อบุคคลที่ถูกกำหนดทั้งโดยทางตรงหรือทางอ้อม  

  • มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำที่เป็นการหลบเลี่ยงข้อห้ามของมาตรการคว่ำบาตรทางการเงินทั้งโดยทางตรงหรือทางอ้อม  

เงินทุนและทรัพยากรทางเศรษฐกิจดังกล่าวจะถูก “อายัด” ในทันทีโดยบุคคลของสหราชอาณาจักรที่ครอบครองหรือมีอำนาจควบคุมทรัพย์สินเหล่านั้น  

เงินทุนหรือทรัพยากรทางเศรษฐกิจจะถือว่าอยู่ภายใต้ความเป็นเจ้าของของบุคคลที่ถูกกำหนดและต้องถูก “อายัด” หาก 

  • บุคคลที่ถูกกำหนดมีกรรมสิทธิ์ตามกฎหมายหรือมีสิทธิได้รับผลประโยชน์ในทรัพย์สินนั้น  

  • ทรัพย์สินเหล่านั้นอยู่ภายใต้ความเป็นเจ้าของร่วมกันกับบุคคลที่ไม่ได้ถูกกำหนด 

4.2.4. ข้อยกเว้นและใบอนุญาต 

รัฐบาลสหราชอาณาจักรได้ออกใบอนุญาตไว้จำนวนหนึ่งซึ่งอนุญาตให้ดำเนินกิจกรรมบางประเภทที่โดยปกติแล้วจะถูกสั่งห้าม ใบอนุญาตแบ่งออกเป็นสองประเภทดังนี้:  

  1. ใบอนุญาตทั่วไป: ใบอนุญาตประเภทนี้อนุญาตให้ดำเนินกิจกรรมบางอย่างซึ่งโดยปกติแล้วจะถูกสั่งห้าม โดยไม่จำเป็นต้องขอใบอนุญาตเฉพาะ รัฐบาลสหราชอาณาจักรได้จัดทำบัญชีรายชื่อใบอนุญาตทั่วไป ซึ่งจะมีปรับปรุงข้อมูลให้เป็นปัจจุบันอย่างสม่ำเสมอเมื่อมีการออกใบอนุญาตใบใหม่ หรือใบอนุญาติเดิมที่มีอยู่หมดอายุ ใบอนุญาตทั่วไปกำหนดให้ต้องมีการแจ้งล่วงหน้าก่อนการใช้งาน การจัดเก็บบันทึกและการรายงาน 

  2. ใบอนุญาตเฉพาะ: การยื่นขอใบอนุญาตเฉพาะอาจดำเนินการโดยบุคคลของสหราชอาณาจักร หรือบริษัทที่มีลูกจ้างเป็นบุคคลของสหราชอาณาจักร หรือบุคคลที่ถูกกำหนดหรือผู้แทนของบุคคลเหล่านั้น (เช่น สำนักงานกฎหมายที่ดำเนินการในนามของบุคคลเหล่านั้น) ใบอนุญาตเฉพาะจะออกให้ได้ต่อเมื่อสถานการณ์เป็นไปตามเหตุผลใดเหตุผลหนึ่งในการออกใบอนุญาตซึ่งได้ระบุไว้ในภาคผนวกที่ 5 ของข้อบังคับ ทั้งนี้ เหตุผลในการออกใบอนุญาตมีอยู่จำกัด โดยตัวอย่างของเหตุผลมีดังต่อไปนี้ 

  • เพื่อสนองตอบความต้องการพื้นฐานของบุคคลที่ถูกกำหนด 

  • เพื่อดำเนินการตามคำพิพากษาของศาลที่มีอยู่ก่อน 

  • เพื่อปฏิบัติตามข้อผูกมัดที่เกิดขึ้นก่อนที่บุคคลนั้นถูกคว่ำบาตร 

  • เพื่อกิจกรรมด้านมนุษยธรรม การแพทย์หรือที่เกี่ยวข้องกับอาหาร 

ข้อบังคับได้กำหนดให้มีข้อยกเว้นบางประการต่อมาตรการคว่ำบาตรโดยการอายัดทรัพย์สิน ในบางสถานการณ์ ข้อยกเว้นเหล่านี้จะมีผลใช้บังคับโดยอัตโนมัติ และในสถานการณ์ดังกล่าว บุคคลของสหราชอาณาจักรไม่จำเป็นต้องได้รับใบอนุญาต คำแนะนำของทางการได้อธิบายขอบเขตและการใช้บังคับของข้อยกเว้นดังกล่าวไว้แล้ว สถานการณ์ต่าง ๆ ที่ข้อยกเว้นเหล่านี้มีผลใช้บังคับนั้นมีอยู่อย่างจำกัดเป็นอย่างยิ่ง จึงแนะนำให้คุณขอคำปรึกษาทางกฎหมายก่อนที่จะถือเอาว่าข้อยกเว้นดังกล่าวสามารถใช้กับคุณได้ 

4.3. มาตรการคว่ำบาตรทางการค้า  

สหราชอาณาจักรได้ใช้บังคับมาตรการคว่ำบาตรทางการค้าต่อรัสเซียที่มีความครอบคลุม โดยมีผลกับสินค้าหรือบริการจำนวนมาก สิ่งสำคัญหลักอันดับแรกของมาตรการคว่ำบาตรทางการค้าของสหราชอาณาจักร คือการป้องกันไม่ให้รัสเซียได้รับสินค้าที่มีส่วนโดยตรงต่อการสนับสนุนกองทัพของตนได้ สินค้าซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มที่ต้องให้ความสนใจเป็นพิเศษสำหรับในกรณีนี้ถูกเผยแพร่ไว้ในรายการสินค้าที่มีความเสี่ยงสูง (CHPL) ซึ่งจัดทำโดยความร่วมมือของสหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรปและญี่ปุ่น แม้ว่ารายการสินค้าที่มีความเสี่ยงสูงจะไม่ได้ครอบคลุมสินค้าที่ถูกคว่ำบาตรทั้งหมด (ดูในข้อที่ 4.3.2) และการหลบเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตรของสหราชอาณาจักรในทุกกรณีจะถือเป็นเรื่องร้ายแรง แต่ธุรกิจที่ตั้งอยู่ในประเทศที่สามควรดำเนินการด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษเมื่อทำการซื้อขายสินค้าที่อยู่ในรายการสินค้าที่มีความเสี่ยงสูง หากมีความเสี่ยงว่าจุดหมายปลายทางของสินค้าอาจเป็นรัสเซีย  ตามที่ระบุไว้ในข้อที่ 3 หากมีการจัดหาสินค้าหรือบริการโดยบริษัทในสหราชอาณาจักร บริษัทนั้นจะต้องได้รับการรับรองว่าสินค้าหรือบริการดังกล่าวจะไม่ถูกส่งต่อไปยังรัสเซียหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องกับรัสเซีย ซึ่งการกระทำดังกล่าวจะถือเป็นการละเมิดมาตรการคว่ำบาตรของสหราชอาณาจักร หากไม่สามารถได้รับการรับรองที่เพียงพอ ผู้จัดหาในสหราชอาณาจักร รวมถึงธนาคารในสหราชอาณาจักรที่เกี่ยวข้องอาจปฏิเสธที่จะดำเนินธุรกิจดังกล่าว 

4.3.1. กิจกรรมที่อยู่ภายใต้มาตรการคว่ำบาตรของสหราชอาณาจักร 

มาตรการคว่ำบาตรของสหราชอาณาจักรที่เกี่ยวข้องกับสินค้าหรือเทคโนโลยีบางประเภทนั้นมีข้อห้ามที่ใช้บังคับกับการดำเนินธุรกรรมต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ มาตรการคว่ำบาตรเหล่านี้ใช้บังคับกับสินค้าและเทคโนโลยีที่ระบุไว้เป็นการเฉพาะในข้อบังคับ สามารถดูคำแนะนำในทางปฏิบัติเพื่อตรวจสอบว่าสินค้านั้น ๆ อยู่ภายใต้มาตรการคว่ำบาตรของสหราชอาณาจักรหรือไม่ในข้อที่ 6.1 แม้ว่าตามกฎหมายแล้ว ข้อจำกัดจะบังคับใช้กับบุคคลของสหราชอาณาจักรและบุคคลที่อยู่ในสหราชอาณาจักร แต่ธุรกิจที่ตั้งอยู่ในประเทศที่สามซึ่งร่วมดำเนินธุรกรรมเหล่านี้อาจเผชิญกับความเสี่ยงตามที่ได้ระบุไว้ในข้อที่ 3.3 

เนื้อหาด้านล่างนี้เป็นการสรุปประเด็นสำคัญของกิจกรรมที่ถูกจำกัดภายใต้มาตรการคว่ำบาตรทางการค้าของสหราชอาณาจักร คำที่ถูกต้องที่ใช้เรียกข้อจำกัดเหล่านี้จะแตกต่างกันไปตามประเภทของสินค้าหรือบริการเฉพาะที่คุณดำเนินการซื้อขาย สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: คำแนะนำว่าด้วยมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซียในเว็บไซต์ GOV.UK  

1. การส่งออก: 

  • การส่งออกสินค้าที่ถูกคว่ำบาตรจากสหราชอาณาจักรไปยังรัสเซียโดยตรง 

  • การส่งออกสินค้าที่ถูกคว่ำบาตรจากสหราชอาณาจักร “เพื่อใช้ประโยชน์ใน” รัสเซีย จะรวมถึงกรณีเช่น สินค้าเหล่านั้นถูกส่งไปยังประเทศที่สามก่อนแล้วจึงส่งต่อไปยังรัสเซีย 

2. การนำเข้า: 

  • การนำเข้าสินค้าที่ถูกคว่ำบาตรเข้าสู่สหราชอาณาจักร โดยสินค้าเหล่านั้นถูกจัดส่งมาจากหรือมีต้นกำเนิดในรัสเซีย ซึ่งรวมถึงกรณี เช่น สินค้าที่ถูกคว่ำบาตรที่ไม่ได้ถูกขนส่งมาจากรัสเซียโดยตรงแต่ส่งผ่านประเทศที่สาม 

  • ได้รับสินค้าที่ถูกคว่ำบาตรทั้งโดยทางตรงหรือทางอ้อมด้วยเจตนาที่จะให้สินค้าเหล่านั้นเข้าสู่สหราชอาณาจักร โดยสินค้าเหล่านั้นนั้นมีต้นกำเนิดใน หรืออยู่ในรัสเซีย หรือมาจากบุคคลที่เกี่ยวข้องกับรัสเซีย 

3. การจัดหาและการส่งมอบ: 

  • การจัดหาและการส่งมอบสินค้าที่ถูกคว่ำบาตรทั้งโดยทางตรงหรือทางอ้อม: 

    • จากประเทศที่สามไปยังรัสเซีย 

    • จากรัสเซียไปยังประเทศที่สาม หรือ  

    • ระหว่างประเทศที่สามด้วยกัน 

4. การจัดหาให้มีสินค้าที่ถูกคว่ำบาตร ทั้งโดยทางตรงหรือทางอ้อม: 

  • เพื่อใช้ประโยชน์ในรัสเซีย  

  • ให้แก่บุคคลที่เกี่ยวข้องกับรัสเซีย 

5. การโอนถ่ายเทคโนโลยีที่ถูกคว่ำบาตร (ซึ่งรวมถึงซอฟต์แวร์): 

  • ไปยังสถานที่ในรัสเซีย 

  • ให้แก่บุคคลที่เกี่ยวข้องกับรัสเซีย 

  • จากรัสเซียไปยังบุคคลหรือสถานที่นอกสหราชอาณาจักร  

6. ความช่วยเหลือด้านเทคนิคที่เกี่ยวข้องกับสินค้าที่ถูกคว่ำบาตร:  

  • การให้ความช่วยเหลือด้านเทคนิคที่เกี่ยวข้องกับสินค้าที่ถูกคว่ำบาตรทั้งโดยทางตรงหรือทางอ้อม 

    • ให้แก่บุคคลที่เกี่ยวข้องกับรัสเซีย 

    • เพื่อใช้ประโยชน์ในรัสเซีย 

    • ให้แก่บุคคลที่ถูกกำหนด (ในกรณีที่เกี่ยวข้องกับอากาศยานและเรือ) 

7. บริการทางการเงินหรือเงินทุนที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมที่ถูกคว่ำบาตร: 

  • การให้บริการทางการเงินหรือเงินทุนทั้งโดยทางตรงหรือทางอ้อมแก่บุคคลที่มีความเกี่ยวข้องกับรัสเซียและมีส่วนเกี่ยวข้องกับกิจกรรมทางการค้าที่ถูกคว่ำบาตร  

8. บริการนายหน้าที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมที่ถูกคว่ำบาตร: 

  • การให้บริการนายหน้าที่เกี่ยวข้องกับการจัดหาหรือการส่งมอบสินค้าที่ถูกคว่ำบาตรทั้งโดยทางตรงหรือทางอ้อม 

    • จากประเทศที่สามไปยังสถานที่ในรัสเซีย หรือ  

    • ให้แก่บุคคลที่เกี่ยวข้องกับรัสเซีย 

ข้อจำกัดในทำนองเดียวกันนี้มีผลใช้บังคับกับภูมิภาคในประเทศยูเครนที่อยู่นอกเหนืออำนาจควบคุมของรัฐบาลยูเครน (ได้แก่ แคว้นไครเมีย แคว้นโดเนตสก์ แคว้นลูฮันสก์ แคว้นเคอร์ซอนและแคว้นซาปอริซเซีย) 

4.3.2. สินค้าใดบ้างที่อยู่ภายใต้มาตรการคว่ำบาตรของสหราชอาณาจักร  

มาตรการคว่ำบาตรเกี่ยวกับการส่งออก (และกิจกรรมที่เกี่ยวข้องตามที่ระบุไว้ข้างต้น) ไปยังรัสเซีย มีผลใช้บังคับกับสินค้าหลากหลายประเภท รวมถึงเทคโนโลยีในบางกรณีดังต่อไปนี้ (พร้อมลิงก์ของข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง)  

  • สินค้าและเทคโนโลยีทางทหาร การป้องกัน ความมั่นคงและสินค้าที่ใช้ได้ทั้งในเชิงพาณิชย์และทางทหาร (หมวด 2

  • สินค้าและเทคโนโลยีใน “อุตสาหกรรมสำคัญ” อุตสาหกรรมกลั่นน้ำมัน อุตสาหกรรมการบิน การเดินเรือและอวกาศ (หมวด 2

  • สินค้าที่เกี่ยวข้องกับพลังงาน (หมวด 4) 

  • สินค้าฟุ่มเฟือย (มาตรการคว่ำบาตรมีผลใช้บังคับกับสินค้าที่มีมูลค่าสูงเกินระดับที่กำหนดไว้ เช่น รถยนต์ที่มีมูลค่าเกิน 42,000 ปอนด์) (หมวด 4B) 

  • สินค้าหลากหลายประเภท โดยเฉพาะสินค้าที่รัสเซียพึ่งพาการจัดหาจากสหราชอาณาจักรและประเทศคู่ค้าสมาชิก G7 หรือสินค้าที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของรัสเซีย (หมวด 4Hและหมวด 4M

มาตรการคว่ำบาตรเกี่ยวกับการนำเข้า (รวมถึงกิจกรรมที่เกี่ยวข้องตามที่ระบุไว้ข้างต้น) จากรัสเซียมีผลใช้บังคับกับสินค้าและผลิตภัณฑ์หลากหลายประเภท รวมถึงเทคโนโลยีในบางกรณีดังต่อไปนี้  

  • น้ำมันและผลิตภัณฑ์จากน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติเหลว ถ่านหินและผลิตภัณฑ์จากถ่านหิน (หมวด 4I หมวด 4Kและหมวด 4L)  

  • ผลิตภัณฑ์จากเหล็กและเหล็กกล้าบางประเภท รวมถึงเหล็กและเหล็กกล้าจากรัสเซียที่ผ่านกระบวนการแปรรูปในประเทศที่สาม (หมวด 4C และหมวด 4CA

  • วัสดุและสินค้าอุตสาหกรรมบางประเภทซึ่งสร้างรายได้ให้แก่รัสเซีย (หมวด 4G และหมวด 4GA

  • ทองคำและเพชร รวมถึงสินค้าที่ผ่านกระบวนการแปรรูปในประเทศที่สาม (หมวด 4J หมวด 4JA หมวด 4JB และหมวด 4JC)  

4.3.4. บริการที่อยู่ภายใต้มาตรการคว่ำบาตรของสหราชอาณาจักร 

มาตรการคว่ำบาตรของสหราชอาณาจักรที่เกี่ยวกับการบริการมีข้อห้ามในการให้บริการประเภทต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ 

  • บริการวิชาชีพและด้านธุรกิจ ได้แก่ บริการด้านบัญชี บริการให้คำปรึกษาด้านธุรกิจและการจัดการ บริการด้านประชาสัมพันธ์ บริการด้านโฆษณา บริการด้านสถาปัตยกรรม บริการตรวจสอบบัญชี บริการด้านวิศวกรรมและบริการออกแบบและให้คำปรึกษาด้านเทคโนโลยีสารสนเทศแก่บุคคลที่มีความเกี่ยวข้องกับรัสเซีย มาตรการคว่ำบาตรยังมีผลใช้บังคับกับบริการให้คำปรึกษาทางกฎหมายแก่บุคคลใด ๆ ที่ไม่ใช่บุคคลของสหราชอาณาจักรซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับกิจกรรมใด ๆ ที่ถือเป็นการละเมิดมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซียของสหราชอาณาจักร หากกิจกรรมดังกล่าวดำเนินการโดยบุคคลของสหราชอาณาจักรหรือบุคคลที่อยู่ในสหราชอาณาจักร  

  • บริการขนส่งทางทะเล บริการประกันภัยและบริการทางการเงินอื่น ๆ สำหรับเรือที่ขนส่งน้ำมันดิบหรือผลิตภัณฑ์จากน้ำมันกลั่นของรัสเซียไปยังหรือขนส่งระหว่างประเทศที่สาม ข้อห้ามนี้จะมีผลใช้บังคับ เว้นแต่ว่าน้ำมันดิบหรือผลิตภัณฑ์จากน้ำมันกลั่นดังกล่าวถูกขายในราคาที่ต่ำกว่าเพดานราคาที่กำหนดไว้ 

  • ข้อห้ามเกี่ยวกับอากาศยานและเรือทุกประเภทที่รัสเซียเป็นเจ้าของหรือดำเนินการโดยรัสเซีย จากเขตน่านฟ้า พื้นที่ลงจอดและท่าเรือในสหราชอาณาจักร 

4.3.5. ข้อยกเว้นและใบอนุญาต 

ในทำนองเดียวกับมาตรการคว่ำบาตรทางการเงิน รัฐบาลสหราชอาณาจักรได้ออกใบอนุญาตไว้จำนวนหนึ่งซึ่งอนุญาตให้ดำเนินกิจกรรมทางการค้าบางประเภท ที่โดยปกติแล้วจะถูกสั่งห้าม โดยใบอนุญาตแบ่งออกเป็นสองประเภท ได้แก่ ใบอนุญาตทั่วไป และใบอนุญาตเฉพาะ 

  1. ใบอนุญาตการค้าทั่วไป: ใบอนุญาตประเภทนี้อนุญาตให้ดำเนินกิจกรรมที่ระบุไว้ซึ่งโดยปกติแล้วจะถูกสั่งห้าม โดยไม่จำเป็นต้องยื่นขอใบอนุญาตเฉพาะ ใบอนุญาตประเภทนี้ยังรวมถึงใบอนุญาตสำหรับน้ำมันและผลิตภัณฑ์จากน้ำมันที่มีราคาต่ำกว่า “เพดานราคา” ใบอนุญาตการค้าทั่วไปกำหนดให้ต้องมีการแจ้งล่วงหน้าก่อนการใช้งาน การจัดเก็บบันทึกและการรายงาน 

  2. ใบอนุญาตเฉพาะ: การขอใบอนุญาตอาจดำเนินการโดยบุคคลของสหราชอาณาจักร หรือบริษัทที่มีลูกจ้างเป็นบุคคลของสหราชอาณาจักร หรือโดยผู้แทนของบุคคลเหล่านั้น (เช่น สำนักงานกฎหมายที่ดำเนินการในนามของบุคคลเหล่านั้น) การพิจารณาให้ใบอนุญาตจะพิจารณาเป็นรายกรณี กิจกรรมเฉพาะที่ทางการของสหราชอาณาจักรพิจารณาแล้วว่าไม่ขัดต่อวัตถุประสงค์ของมาตรการคว่ำบาตรได้รับการระบุไว้ในตารางในข้อที่ 3.4 ของคำแนะนำว่าด้วยมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซีย  

ข้อบังคับยังได้กำหนดข้อยกเว้นบางประการต่อมาตรการคว่ำบาตรทางการค้า ซึ่งในบางสถานการณ์ที่ระบุไว้ ข้อยกเว้นจะมีผลใช้บังคับโดยอัตโนมัติและบุคคลของสหราชอาณาจักรไม่จำเป็นต้องได้รับใบอนุญาต ข้อยกเว้นโดยสรุปมีดังนี้ 

  • ทรัพย์สินส่วนตัวของบุคคลที่เดินทางไปยังรัสเซีย 

  • อุปกรณ์สื่อสารเพื่อบริโภคและการอัปเดตซอฟต์แวร์ สำหรับการใช้ประโยชน์ทางพลเรือน 

  • ข้อยกเว้นบางประการเกี่ยวกับอากาศยานและเรือ  

  • ข้อยกเว้นบางประการที่เกี่ยวข้องกับบริการด้านวิชาชีพ ธุรกิจและการให้คำปรึกษาทางกฎหมาย 

  • การนำเข้าเหล็กและเหล็กกล้าบางประเภท 

  • น้ำมันและผลิตภัณฑ์จากน้ำมันที่ขนส่งผ่านรัสเซีย 

สถานการณ์ต่าง ๆ ที่ข้อยกเว้นเหล่านี้มีผลใช้บังคับนั้นมีอยู่อย่างจำกัดเป็นอย่างยิ่ง จึงแนะนำให้คุณขอคำปรึกษาทางกฎหมายก่อนที่จะถือเอาว่าข้อยกเว้นดังกล่าวสามารถใช้กับคุณได้ 

4.4. มาตรการคว่ำบาตรประเภทอื่น 

นอกเหนือจากมาตรการประเภทต่าง ๆ ที่ได้กล่าวไว้ข้างต้นแล้ว มาตรการคว่ำบาตรของสหราชอาณาจักร ยังครอบคลุมถึงกิจกรรมในรูปแบบอื่นอีกหลายประเภท คำแนะนำฉบับนี้จะไม่กล่าวถึงรายละเอียดของกิจกรรมเหล่านั้น เนื่องจากเป็นกิจกรรมที่โดยทั่วไปแล้วอาจจะไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจที่ดำเนินการในประเทศที่สาม สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้จากคำแนะนำทางกฎหมายของสหราชอาณาจักร  

5. ขั้นตอนที่สามารถนำไปปฏิบัติเพื่อจัดการความเสี่ยงจากมาตรการคว่ำบาตรและเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย  

การจัดการความเสี่ยงจากมาตรการคว่ำบาตรไม่สามารถใช้วิธีที่เป็น “สูตรสำเร็จ” ได้กับทุกกรณี โดยทั่วไปแล้ว วิธีที่ดีที่สุดคือการประเมินความเสี่ยงที่เกิดจากกิจกรรมเฉพาะธุรกิจของคุณ จากนั้นจึงดำเนินการออกแบบนโยบายของบริษัทที่เกี่ยวข้องกับมาตรการคว่ำบาตรและนำนโยบายดังกล่าวไปปฏิบัติเพื่อจัดการความเสี่ยงเหล่านั้นอย่างมี ประสิทธิผล เนื้อหาด้านล่างนี้เป็นขั้นตอนอย่างง่ายและสามารถนำไปปฏิบัติเพื่อช่วยสนับสนุนกระบวนการดังกล่าว ทั้งนี้ การปฏิบัติตามคำแนะนำไม่ได้เป็นหลักประกันว่าคุณจะปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องได้อย่างครบถ้วน หากคุณพิจารณาแล้วว่ากิจกรรมที่คุณทำอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับมาตรการคว่ำบาตรของสหราชอาณาจักร ขอแนะนำให้คุณขอคำปรึกษาทางกฎหมาย 

5.1. การประเมินความเสี่ยง 

โดยการอ้างอิงข้อมูลจากคำแนะนำฉบับนี้และคำแนะนำในแหล่งข้อมูลอื่น ๆ (ดังเช่นที่ได้ระบุไว้ในข้อที่ 7) โปรดดำเนินการระบุและประเมินความเสี่ยงที่ธุรกิจของคุณอาจ 

  • ละเมิดกฎหมายภายในประเทศ 

  • ดำเนินธุรกรรมใด ๆ ซึ่งแม้จะไม่ถือเป็นการละเมิดกฎหมายภายในประเทศ แต่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อความสามารถทางการค้าของคุณในอนาคต 

บัญชีความเสี่ยง (หรือบางครั้งเรียกว่า “สัญญาณอันตราย”) อาจประกอบด้วยกรณีดังต่อไปนี้ โปรดทราบว่า รายการด้านล่างเป็นเพียงกรณีตัวอย่างเท่านั้น ไม่ได้ครอบคลุมกรณีทั้งหมด เนื้อหานี้จัดทำขึ้นจากคำแนะนำในแหล่งข้อมูลต่าง ๆ “การโต้ตอบการหลบเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตรของรัสเซีย - คำแนะนำสำหรับผู้ส่งออก” ของสหราชอาณาจักร และ “คำแนะนำสำหรับภาคอุตสาหกรรมเพื่อป้องกันการควบคุมการส่งออกและการหลบเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตรของรัสเซีย (ฉบับปรับปรุง) โดยกลุ่มประเทศ G7” 

1. คู่ค้าและลูกค้าทางธุรกิจของคุณ: 

  • การกำหนดภายใต้มาตรการคว่ำบาตร:  

    • เป็นบุคคลที่ถูกกำหนด หรืออยู่ภายใต้ความเป็นเจ้าของหรืออำนาจควบคุมของบุคคลที่ถูกกำหนดหรือไม่ หรือไม่มีข้อมูลเพียงพอในประเด็นนี้ (คำแนะนำในการดำเนินการตรวจสอบสามารถดูได้ในข้อที่ 6.3) 

    • เปลี่ยนแปลงผู้ที่ได้รับผลประโยชน์สุดท้ายเป็นระยะเวลาไม่นานก่อน หรือหลังการใช้บังคับมาตรการคว่ำบาตรหรือไม่ 

    • มีความเกี่ยวโยงกับบุคคลที่ถูกกำหนด เช่น การร่วมลงทุน หรือข้อตกลงความร่วมมือหรือไม่ 

    • มีรายละเอียดที่อยู่หรือข้อมูลติดต่อที่คล้ายคลึงกับของบุคคลที่ถูกกำหนดหรือไม่  

  • ความเกี่ยวข้องกับรัสเซีย: 

    • เป็นบุคคลที่มีถิ่นพำนักอาศัยหรืออยู่ในรัสเซียหรือไม่ 

    • เป็นบริษัทที่ก่อตั้งหรือมีที่อยู่ในรัสเซียหรือไม่ 

    • เป็นสาขาหรือบริษัทย่อยในต่างประเทศของบริษัทในรัสเซียหรือไม่  

    • ดำเนินธุรกิจกับบริษัทในรัสเซีย โดยเฉพาะในภาคกลาโหมของรัสเซียหรือไม่ 

  • ความเป็นไปได้ที่จะเป็นบริษัทบังหน้า: 

    • ลังเลที่จะให้ข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับตนเองหรือไม่ ไม่มีเว็บไซต์หรือมีข้อมูลในเว็บไซต์น้อยมากหรือไม่ 

    • ใช้กระบวนการการค้าที่ซับซ้อนเกินความจำเป็นหรือไม่ เช่น การใช้ตราสารเครดิตซ้อนหลายฉบับ การใช้ตัวกลางหรือนายหน้า 

    • มีที่อยู่ที่ไม่สอดคล้องกับลักษณะของธุรกิจ หรือเป็นที่อยู่สำหรับพักอาศัยหรือไม่ 

    • ใช้สถานที่ตั้งหรือที่อยู่ที่ใช้จดทะเบียนร่วมกันกับธุรกิจหรือบริษัทผู้ถือหุ้นหลายแห่งที่ค้าขายสินค้าซึ่งมีลักษณะคล้ายกันหรือไม่ กรณีนี้อาจมีเจตนาปกปิดการซื้อขายสินค้าต้องห้ามตามกฎหมายที่ถูกคว่ำบาตร 

    • เป็นนิติบุคคลที่ถูกก่อตั้งหรือเปิดดำเนินการใหม่อีกครั้ง หรือมีการเปลี่ยนแปลงความเป็นเจ้าของหรืออำนาจควบคุมเมื่อไม่นานมานี้หรือไม่ 

    • มีประวัติเล็กน้อยหรือไม่มีประวัติเกี่ยวกับการจัดซื้อสินค้าที่สงสัย 

    • ต้องติดต่อสื่อสารผ่านตัวแทน ในขณะที่ไม่สามารถติดต่อผู้บริหารระดับสูงได้  

    • ปฏิเสธบริการพื้นฐาน เช่น การติดตั้ง การฝึกอบรมหรือการบำรุงรักษาที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์หรือไม่ 

  • การใช้ประโยชน์ปลายทางของสินค้า: 

    • มีเหตุอันควรสงสัยว่าคู่ค้าหรือลูกค้าของคุณมีส่วนเกี่ยวข้องกับการหลบเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตรหรือไม่  

    • ระบุการใช้ประโยชน์ปลายทางของสินค้าได้ชัดเจนและสมเหตุสมผลหรือไม่ หรือลังเลที่จะให้ข้อมูลในประเด็นนี้ 

    • มีเอกสารสนับสนุน เช่น ใบกำกับสินค้าที่ข้อมูลไม่สอดคล้องกันหรือไม่ หรือไม่ได้ระบุผู้ใช้ประโยชน์ปลายทางที่แท้จริง แต่ระบุไว้เพียงตัวกลาง เช่น ศูนย์ไปรษณีย์ บริษัทการค้าหรือบริษัทโลจิสติกส์ หรือไม่ 

2. สินค้าและการขนส่งสินค้าของคุณ: 

  • เป็นสินค้าที่นำเข้าจากสหราชอาณาจักร (หรือจากประเทศอื่นที่บังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซีย) ทั้งโดยทางตรงหรือทางอ้อมหรือไม่  

  • เป็นสินค้าที่อยู่ภายใต้มาตรการคว่ำบาตรหรือมาตรการควบคุมการส่งออกหรือนำเข้าใด ๆ หรือไม่ – โปรดตรวจสอบรหัสพิกัดศุลกากรของสินค้า และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เป็นสินค้าที่อยู่ในรายการสินค้าที่มีความเสี่ยงสูงหรือไม่ และผู้จัดหาในสหราชอาณาจักรได้แจ้งให้คุณทราบว่าเป็นสินค้าที่ถูกคว่ำบาตรหรืออยู่ในรายการสินค้าที่มีความเสี่ยงสูงหรือไม่  

  • เป็นสินค้าที่มีส่วนประกอบซึ่งอยู่ในรายการสินค้าที่มีความเสี่ยงสูงและอาจถูกแยกส่วนออกมาเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ที่ผิดวัตถุประสงค์หรือไม่ 

  • รูปแบบการค้าของคุณมีลักษณะที่แตกต่างไปจากการค้ารูปแบบปกติหรือไม่ ตัวอย่างเช่น ปริมาณการซื้อขายหรือราคาของสินค้าเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญหลังจากมาตรการคว่ำบาตรถูกใช้บังคับ  

  • เป็นสินค้าที่ไม่สอดคล้องกับลักษณะธุรกิจของลูกค้าหรือไม่ ตัวอย่างเช่น การสั่งซื้อคอมพิวเตอร์ขั้นสูงเพื่อใช้งานในร้านขนมปังขนาดเล็ก 

  • มีเหตุอันควรสงสัยว่ามีการปลอมแปลงประเทศต้นกำเนิด หรือรหัสพิกัดศุลกากรของสินค้าที่ระบุไว้หรือไม่ 

  • ใช้เส้นทางการขนส่งที่ผิดปกติหรือขนส่งแบบทางอ้อมหรือไม่ 

  • มูลค่าในใบกำกับสินค้าถูกแบ่งออกเป็นมูลค่าย่อย ๆ เพื่อให้มูลค่าเหล่านั้นอยู่ต่ำกว่าระดับที่มาตราการคว่ำบาตรสินค้าหรือมาตรการควบคุมการส่งออกกำหนดไว้หรือไม่ 

3. การชำระเงินของคุณ: 

  • ลูกค้าของคุณโอนเงินผ่านตัวกลางระหว่างประเทศโดยใช้บริษัทบังหน้าที่ไม่มีการประกอบธุรกิจจริงหรือไม่ 

  • ลูกค้าของคุณใช้สกุลเงินคริปโตในการชำระเงินหรือไม่ 

  • ลูกค้าของคุณมีเส้นทางของกระแสการเงินที่เป็นทางอ้อมหรือไม่ ตัวอย่างเช่น เส้นทางการชำระเงินที่ไม่ผ่านระบบ SWIFT หรือผ่านธนาคารขนาดเล็กในต่างประเทศ 

  • มีการจัดซื้อผ่านตราสารเครดิตที่ระบุชื่อธนาคารผู้ออกตราสารเป็นผู้รับมอบสินค้า แทนที่จะระบุชื่อผู้ใช้ประโยชน์ปลายทางที่แท้จริงหรือไม่ 

  • ลูกค้าของคุณไม่สนใจการรับประกัน การบำรุงรักษา บริการหลังการขาย อะไหล่ เป็นต้น  

  • ทำธุรกรรมเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงเส้นทางการชำระเงินผ่านประเทศหรือบริษัทอื่นในนาทีสุดท้ายหรือไม่ 

  • ลูกค้าของคุณเต็มใจที่จะชำระเงินในราคาที่สูงกว่าราคาตลาดอย่างมีนัยสำคัญหรือไม่ 

5.2. กำหนดนโยบายของบริษัท 

จากการวิเคราะห์ความเสี่ยงของธุรกิจของคุณ โปรดดำเนินการกำหนดนโยบายของบริษัทให้สอดคล้องกับมาตรการคว่ำบาตร นโยบายดังกล่าวไม่จำเป็นต้องยาวหรือซับซ้อน แต่ควรอยู่ในระดับที่เหมาะสมกับความเสี่ยงและสามารถใช้จัดการความเสี่ยงได้อย่างมี ประสิทธิผล ตัวอย่างประกอบของส่วนประกอบหลักของนโยบายมีสามประการดังนี้ 

  1. ผู้บริหารระดับสูงแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นที่จะปฏิบัติตามมาตรการคว่ำบาตร มอบหมายความรับผิดชอบในแต่ละหน้าที่และจัดการฝึกอบรมและสร้างความตระหนักรู้แก่บุคลากร 

  2. ดำเนินการตรวจสอบวิเคราะห์สถานะของคู่ค้าหรือลูกค้ารายปัจจุบันและในอนาคตของคุณ โดยพิจารณาจากรายการคำถามที่แสดงรายการไว้ในหัวข้อ “การประเมินความเสี่ยง” หากมีข้อสงสัยในประเด็นใด ๆ ให้ขอคำชี้แจงจากคู่ค้าหรือลูกค้าของคุณ และหากสินค้าเหล่านั้นอยู่ภายใต้มาตรการคว่ำบาตร ให้คู่ค้าหรือลูกค้าของคุณลงนามในหนังสือรับรองผู้ใช้ประโยชน์ปลายทางเพื่อรับรองว่าสินค้าเหล่านั้นจะไม่ถูกจัดส่งไปยังรัสเซีย และระบุข้อกำหนดในสัญญาเพื่อให้คู่ค้าหรือลูกค้าของคุณปฏิบัติตาม สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมในประเด็นเหล่านี้ได้ที่ด้านล่าง 

  3. ปรับปรุงนโยบายให้เป็นปัจจุบันอย่างสม่ำเสมอ คอยติดตามการเปลี่ยนแปลงของกฎหมายภายในประเทศและมาตรการคว่ำบาตร และปรับขั้นตอนการดำเนินการให้เหมาะสม ดำเนินการตรวจสอบและประเมินขั้นตอนการดำเนินการต่าง ๆ เพื่อให้มั่นใจว่าเป็นไปอย่างมี ประสิทธิผล และจัดการฝึกอบรมบุคลากรเป็นประจำ 

5.3. ตรวจสอบว่าคู่ค้า/ลูกค้าของคุณว่าอยู่ภายใต้มาตรการอายัดทรัพย์สินหรือไม่ 

สำหรับคู่ค้าหรือลูกค้ารายปัจจุบัน เรื่องนี้ควรผ่านการตรวจสอบมาแล้วอันส่วนหนึ่งของกระบวนการประเมินความเสี่ยง และควรมีการตรวจสอบซ้ำเป็นระยะ ในกรณีที่คู่ค้าหรือลูกค้าเหล่านั้นอาจถูกเพิ่มเข้าไปในบัญชีรายชื่อที่อยู่ภายใต้มาตรการคว่ำบาตรในภายหลัง 

สำหรับคู่ค้าหรือลูกค้ารายใหม่ในอนาคต ควรดำเนินการตรวจสอบตามขั้นตอนที่ระบุไว้ สามารถดำเนินการคัดกรองรายชื่อและรายละเอียดของคู่ค้าหรือลูกค้าทั้งรายปัจจุบันและในอนาคตได้ด้วยตนเอง หรือโดยใช้ระบบซอฟต์แวร์เชิงพาณิชย์ ขั้นตอนการตรวจคัดกรองมีดังนี้ 

  1. ตรวจสอบชื่อ: ให้ค้นหาชื่อและที่อยู่ซึ่งระบุไว้แยกกันในบัญชีรายชื่อผู้ที่อยู่ภายใต้มาตรการคว่ำบาตรของสหราชอาณาจักรโดยสำนักงานบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรทางการเงิน โดยกดปุ่ม “Control+f” พร้อมกันบนแป้นพิมพ์ หรือใช้เครื่องมือค้นหา หากพบว่าชื่อที่ต้องการตรวจสอบตรงกับชื่อในบัญชีรายชื่อ ให้ตรวจสอบรายละเอียดอื่น ๆ ที่ระบุไว้ในบัญชีรายชื่อ (เช่น นามแฝง วันเดือนปีเกิดและที่อยู่) เพื่อยืนยันว่าชื่อที่ตรงกันนั้นมีข้อมูลถูกต้องหรือไม่ โปรดคำนึงไว้ว่า หากที่อยู่นั้นตรงกับที่อยู่ในบัญชีรายชื่อที่อยู่ภายใต้มาตรการคว่ำบาตรใด ๆ กรณีดังกล่าวอาจเป็นสัญญาณของการใช้บริษัทหรือทรัสต์และบริษัทที่ให้บริการบังหน้า ซึ่งควรมีการตรวจสอบเพิ่มเติมต่อไป 

  2. ตรวจสอบความเป็นเจ้าของ: หากคู่ค้าหรือลูกค้าไม่มีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อที่อยู่ภายใต้มาตรการคว่ำบาตรใด ๆ ควรตรวจสอบเพิ่มเติมว่าคู่ค้าหรือลูกค้าดังกล่าวมีบุคคลที่ถูกกำหนดถือครองความเป็นเจ้าของมากกว่าร้อยละ 50 หรือไม่ตามที่ระบุไว้ในข้อที่ 4.3.2 รายละเอียดข้างต้นอาจได้รับจากคู่ค้าหรือลูกค้าโดยตรง แต่ควรตรวจสอบความถูกต้องจากแหล่งข้อมูลเพิ่มเติมที่ประกาศไว้เป็นสาธารณะ หากไม่สามารถหาข้อมูลที่เชื่อถือได้เกี่ยวกับตัวตนของเจ้าของหรือผู้ที่ได้รับผลประโยชน์ขั้นสุดท้าย หรือมีเหตุอันควรสงสัยว่าคู่ค้าหรือลูกค้าดังกล่าวอาจมีบุคคลที่ถูกกำหนดเป็นเจ้าของ ควรดำเนินการด้วยความระมัดระวังอย่างยิ่ง 

  3. ตรวจสอบอำนาจควบคุม: หากคู่ค้าหรือลูกค้าไม่ได้ถูกกำหนดในชื่อของตน หรือไม่ได้มีบุคคลที่ถูกกำหนดเป็นเจ้าของ ควรพิจารณาด้วยว่าคู่ค้าหรือลูกค้าดังกล่าวอยู่ภายใต้อำนาจควบคุมของบุคคลที่ถูกกำหนดหรือไม่ตามที่ระบุไว้ในข้อที่ 4.3.2 ในทำนองเดียวกัน หากมีเหตุอันควรสงสัยว่าคู่ค้าหรือลูกค้าอาจอยู่ภายใต้อำนาจควบคุมของบุคคลที่ถูกกำหนด แนะนำให้ดำเนินการกับคู่ค้าหรือลูกค้าเหล่านั้นด้วยความระมัดระวังอย่างยิ่ง 

หากคู่ค้าหรือลูกค้าถูกคว่ำบาตร หรืออยู่ภายใต้ความเป็นเจ้าของหรืออำนาจควบคุมของบุคคลที่ถูกคว่ำบาตร หรือมีเหตุร้ายแรงอันควรสงสัยว่ามีความเกี่ยวข้องกับกรณีดังกล่าว แนะนำอย่างยิ่งว่าไม่ควรดำเนินธุรกิจใด ๆ กับคู่ค้าหรือลูกค้าเหล่านั้น การกระทำเช่นนั้นอาจเป็นการ: 

  • ละเมิดกฎหมายภายในประเทศ 

  • ส่งผลให้ธนาคาร ผู้จัดหาหรือคู่ค้าอื่น ๆ ของคุณยุติการดำเนินธุรกิจกับคุณ 

  • ในกรณีร้ายแรง อาจส่งผลให้คุณถูกคว่ำบาตรเสียเอง 

5.4. ตรวจสอบความเกี่ยวข้องกับรัสเซีย 

การที่คู่ค้าหรือลูกค้ามีความเกี่ยวข้องกับรัสเซียนั้น ไม่ได้หมายความว่าคุณไม่ควรดำเนินธุรกิจใด ๆ กับคู่ค้าหรือลูกค้าเหล่านั้น ซึ่งเป็นคนละกรณีกับการถูกคว่ำบาตร แต่หากคิดที่จะดำเนินธุรกิจกับคู่ค้าหรือลูกค้ารายใหม่ ควรตรวจสอบประวัติและแนวทางการดำเนินธุรกิจของคู่ค้าหรือลูกค้าดังกล่าวให้ชัดเจน โดยเฉพาะข้อมูลเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์ปลายทาง ผู้ใช้ประโยชน์ปลายทางและประเทศปลายทางสุดท้ายของสินค้าที่คุณจัดหาให้ ขั้นตอนที่ควรนำไปปฏิบัติมีดังนี้ 

  • ระบุข้อกำหนดในสัญญาของคุณที่ห้ามไม่ให้มีการส่งออกสินค้าต่อไปยังรัสเซีย และการขายต่อให้แก่บุคคลภายนอกซึ่งไม่ได้ให้คำมั่นสัญญาในลักษณะเดียวกัน 

  • ดำเนินการสืบค้นโดยใช้แหล่งข้อมูลสาธารณะ เช่น การตรวจสอบทะเบียนธุรกิจหรือฐานข้อมูลการค้าที่เผยแพร่เป็นสาธารณะ 

  • พิจารณาจากรายการคำถามเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์ปลายทางที่ระบุไว้ในหัวข้อการประเมินความเสี่ยงในข้อที่ 6.1 เพื่อยืนยันให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ว่าไม่มีเหตุอันควรสงสัยว่าสินค้าของคุณจะถูกส่งออกต่อไปยังรัสเซีย และตรวจสอบหลักฐานทางเอกสารเพิ่มเติมที่สนับสนุนคำแถลงของลูกค้า 

  • ตรวจสอบตัวตนและบทบาทของบุคคลภายนอกที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกรรม เช่น นายหน้า ผู้รับจ้างช่วงและผู้ให้บริการเป็นตัวแทนนำเข้าและส่งออกสินค้า 

  • ระบุข้อกำหนดในสัญญาของคุณที่อนุญาตให้คุณไม่ต้องปฏิบัติตามสัญญาได้โดยไม่ต้องรับผิด หากการดำเนินการนั้นจะเป็นการละเมิดกฎหมายภายในประเทศของคุณหรือเป็นเหตุให้คุณละเมิดสัญญากับผู้จัดหาในสหราชอาณาจักรหรือผู้จัดหาอื่น ๆ 

  • กำหนดให้มีการลงนามในหนังสือรับรองผู้ใช้ประโยชน์ปลายทาง ซึ่งจะต้องระบุการใช้ประโยชน์ปลายทางของสินค้าให้มีความน่าเชื่อถือและถูกต้องตามกฎหมาย และกำหนดให้รับรองว่าจะไม่มีการจัดหา ขาย ส่งออกหรือโอนถ่ายสินค้าไปยังรัสเซียหรือบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องกับรัสเซีย ตลอดจนบุคคลอื่นใดที่ไม่ได้ให้คำมั่นสัญญาในลักษณะเดียวกัน (สามารถดูตัวอย่างหนังสือรับรองผู้ใช้ประโยชน์ปลายทางได้ในข้อที่ 7.2) 

ขอแนะนำเป็นอย่างยิ่งว่า คุณไม่ควรจัดหาสินค้าใด ๆ ที่อยู่ภายใต้มาตรการคว่ำบาตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าที่อยู่ในรายการสินค้าที่มีความเสี่ยงสูง ให้แก่คู่ค้าหรือลูกค้ารายใด หากมีเหตุอันควรสงสัยว่าสินค้าดังกล่าวของคุณอาจถูกส่งต่อไปยังรัสเซีย การดำเนินการดังกล่าวอาจทำให้คุณเผชิญกับความเสี่ยงที่ร้ายแรงหลายประการ ดังนี้ 

  • การละเมิดกฎหมายภายในประเทศ 

  • ธนาคาร ผู้จัดหา และคู่ค้าอื่น ๆ ของคุณยุติการดำเนินธุรกิจกับคุณ 

  • ในกรณีร้ายแรง อาจส่งผลให้คุณถูกคว่ำบาตรเสียเอง 

5.5. การตรวจสอบและปรับปรุงให้เป็นปัจจุบันอยู่เป็นประจำ 

มาตรการคว่ำบาตรและกฎหมายภายในประเทศที่ใช้บังคับมาตรการดังกล่าวสามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว โปรดติดตามความเปลี่ยนแปลงและปรับปรุงขั้นตอนการดำเนินการของคุณให้เป็นปัจจุบันตามสมควร คุณสามารถสมัครรับการแจ้งเตือนทางอีเมลจากรัฐบาลสหราชอาณาจักรได้ (ดูข้อที่ 7) 

บุคคลที่พยายามหลบเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตรมักมีความสามารถในการแก้ไขปัญหาสูง ช่องทางและเทคนิค ในการหลบเลี่ยงมักถูกปรับเปลี่ยนอยู่บ่อยครั้งเพื่อเลี่ยงการตรวจจับ ดังนั้น จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่คุณต้องเฝ้าระวังสัญญาณใหม่ ๆ ที่อาจบ่งชี้ว่าธุรกิจของคุณตกเป็นเป้าหมายเพื่อวัตถุประสงค์ในการหลบเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตร  

การติดตามกระแสการค้าและพฤติกรรมการซื้อของลูกค้าที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณในระยะยาวอาจแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญของการส่งออกสินค้าที่มีความเสี่ยงสูง ซึ่งอาจเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่าสินค้าเหล่านี้ กำลังถูกจัดซื้อเพื่อส่งต่อไปยังรัสเซีย 

ธุรกิจควรประเมินความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับมาตรการคว่ำบาตรอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากรูปแบบของการหลบเลี่ยงมักมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ทั้งนี้เพื่อให้แน่ใจว่าขั้นตอนการปฏิบัติตามมาตรการและแนวทางการตรวจสอบวิเคราะห์สถานะยังคงมีประสิทธิผล 

ควรดำเนินกระบวนการวิเคราะห์ช่องโหว่เฉพาะธุรกิจเป็นระยะ ๆ อย่างสม่ำเสมอ เนื่องจากลูกค้าทางธุรกิจและกระแสการค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง รวมถึงการบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรใหม่ ๆ และการปรับเปลี่ยนเทคนิคที่ใช้ในการหลบเลี่ยง  

แม้จะเป็นคู่ค้าที่ดำเนินธุรกิจร่วมกันมาอย่างยาวนานแล้วก็ตาม แต่ก็ควรตรวจสอบวิเคราะห์สถานะของคู่ค้าเป็นระยะ ๆ เพื่อให้มั่นใจว่าความเสี่ยงยังคงอยู่ในระดับที่ ไม่เปลี่ยนแปลง ตัวอย่างเช่น การเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการผู้บริหาร สถานะทางองค์กร หรือรูปแบบการดำเนินธุรกรรม อาจบ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงการดำเนินธุรกิจของลูกค้าอย่างมีนัยสำคัญ 

ควรดำเนินการสุ่มตรวจสอบและการตรวจสอบภายใน เพื่อให้มั่นใจว่าขั้นตอนการดำเนินการยังมี ประสิทธิผล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ควรประเมินหลังการดำเนินธุรกรรม เพื่อตรวจสอบว่าการชำระเงินใด ๆ ที่เกิดขึ้นมีความเกี่ยวข้องกับรัสเซีย หรือมีเหตุอันควรสงสัยในกิจกรรมดังกล่าวหรือไม่ 

6. ข้อมูลเพิ่มเติม 

6.1. การตรวจสอบว่าสินค้าอยู่ภายใต้มาตรการคว่ำบาตรหรือไม่  

  1. ขั้นตอนแรก คุณจำเป็นต้องทราบรหัสพิกัดศุลกากรของสินค้าที่ต้องการตรวจสอบ (รหัสหกหลักแรกจะเหมือนกันทั่วโลกภายใต้ “ระบบเดียวกันทั่วโลก” ฉะนั้น ในบางครั้งจึงเรียกรหัสเหล่านี้ว่า “HS Code” โดยประเทศต่าง ๆ สามารถเพิ่มรหัสได้อีกไม่เกิน 4 หลัก เพื่อใช้ในระบบการจำแนกสินค้าของตน รหัสที่ใช้กับสินค้าชนิดเดียวกันอาจแตกต่างกันไปเล็กน้อยในแต่ละประเทศ) หากคุณนำเข้าสินค้าจากสหราชอาณาจักร รหัสพิกัดศุลกากรของสหราชอาณาจักรจะปรากฏในใบกำกับสินค้า หากคุณไม่ทราบรหัสดังกล่าว สามารถค้นหาได้โดยใช้เครื่องมือหาพิกัดอัตราภาษีศุลกากรของสหราชอาณาจักร 

  2. ตรวจสอบว่าสินค้านั้นอยู่ในภาคผนวกของข้อบังคับว่าด้วยมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซียของสหราชอาณาจักร หรือไม่ ในขณะนี้ยังไม่มีเครื่องมือค้นหาให้บริการสำหรับการตรวจสอบดังกล่าว จึงจำเป็นต้องดำเนินการตรวจสอบด้วยตนเองโดยการสืบค้นเนื้อหาของข้อบังคับ รายละเอียดวิธีการตรวจสอบมีดังนี้: 

  3. ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณกำลังดูข้อบังคับฉบับล่าสุดอยู่หรือไม่ โดยดูในหน้า “Table of Contents” (สารบัญ) (ในแถบเมนูด้านซ้ายมือ)  

  4. เปิดเมนู “Print Options” (ตัวเลือกการพิมพ์) ที่อยู่ด้านบนของหน้าเว็บไซต์ และเลือก “The Whole Instrument” (เครื่องมือทั้งหมด) (ซึ่งสามารถเลือกดาวน์โหลดเป็นไฟล์ PDF หรือดูผ่านหน้าเว็บไซต์ได้) 

  5. กดปุ่ม “Control+f” เพื่อค้นหารหัสพิกัดศุลกากรของสินค้าของคุณ โดยเริ่มจากรหัส 4 หลักก่อน แล้วจึงดำเนินการค้นหารหัส 6 และ 8 หลักตามลำดับ หากพบว่ารหัส 4 หลักปรากฏอยู่ในบัญชีรายชื่อ แสดงว่าสินค้าทุกชนิดภายใต้หมวดหมู่ดังกล่าวอยู่ภายใต้มาตรการคว่ำบาตร และกรณีนี้ใช้กับรหัส 6 และ 8 หลักเช่นกัน 

  6. รหัสพิกัดศุลกากรอาจปรากฏอยู่หลายแห่งในเอกสาร โปรดตรวจสอบว่ารหัสดังกล่าวอยู่ในภาคผนวกฉบับใด จากนั้นจึงตรวจสอบข้อบังคับที่ใช้บังคับกับภาคผนวกดังกล่าว เนื่องจากบางฉบับเป็นข้อห้ามการส่งออก (รวมถึงการกระทำที่เกี่ยวข้อง) ไปยังรัสเซีย ขณะที่บางฉบับเป็นข้อห้ามการนำเข้า (รวมถึงการกระทำที่เกี่ยวข้อง) จากรัสเซีย 

  7. ขั้นตอนสุดท้าย หากไม่พบสินค้าของคุณในภาคผนวกฉบับใดก็ตาม โปรดตรวจสอบในภาคผนวก 2A ซึ่งระบุรายการ “สินค้าและเทคโนโลยีอุตสาหกรรมสำคัญ” โดยใช้คำอธิบายลักษณะสินค้าแทนการใช้รหัสพิกัดศุลกากร ตรวจสอบชื่อหมวดหมู่และรายการย่อยที่ระบุไว้อย่างละเอียดหากมีความเกี่ยวข้อง เพื่อดูว่าสินค้าของคุณเข้าข่ายในหมวดหมู่ใดหรือไม่ สินค้าทั้งหมดในภาคผนวกฉบับนี้เป็นสินค้าที่ห้ามส่งออก (รวมถึงการกระทำที่เกี่ยวข้อง) ไปยังรัสเซีย 

6.2. หนังสือรับรองผู้ใช้ประโยชน์ปลายทางและข้อสัญญา 

เนื้อหาต่อไปนี้เป็นตัวอย่างประกอบของข้อผูกมัดที่คุณอาจขอให้ลูกค้าของคุณลงนามหรือระบุเพิ่มไว้ในสัญญาเพื่อรับรองว่าการดำเนินธุรกรรมกับลูกค้าของคุณจะไม่เป็นการหลบเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตร ทั้งนี้ อาจมีกรณีที่ผู้จัดหาของคุณในสหราชอาณาจักร สหภาพยุโรป สหรัฐอเมริกาหรือประเทศอื่น ๆ ร้องขอหนังสือรับรองหรือข้อสัญญาในลักษณะเดียวกัน  

ลูกค้าของคุณอาจถูกขอให้รับรองว่า 

  • ตนมิได้ถูกกำหนดภายใต้มาตรการอายัดทรัพย์สินตามกฎหมายว่าด้วยมาตรการคว่ำบาตรของสหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป หรือกฎหมายว่าด้วยมาตรการคว่ำบาตรของประเทศอื่นที่ใช้บังคับ และมิได้อยู่ภายใต้ความเป็นเจ้าของในสัดส่วนตั้งแต่ร้อยละ 50 ขึ้นไป หรือภายใต้อำนาจควบคุมของบุคคลหรือนิติบุคคลใดที่ถูกกำหนดตามกฎหมายดังกล่าว 

  • สินค้าจะไม่ถูกขาย จัดหา หรือส่งมอบทั้งโดยทางตรงหรือทางอ้อม ให้แก่บุคคลหรือนิติบุคคลใดที่ถูกกำหนดภายใต้มาตรการอายัดทรัพย์สินตามกฎหมายว่าด้วยมาตรการคว่ำบาตรของสหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป หรือกฎหมายว่าด้วยมาตรการคว่ำบาตรของประเทศอื่นที่ใช้บังคับ หรือแก่นิติบุคคลใดที่อยู่ภายใต้ความเป็นเจ้าของในสัดส่วนตั้งแต่ร้อยละ 50 ขึ้นไป หรือภายใต้อำนาจควบคุมของบุคคลหรือนิติบุคคลใดที่ถูกกำหนดตามกฎหมายดังกล่าว 

  • สินค้าจะไม่ถูกขาย จัดหา หรือส่งมอบทั้งโดยทางตรงหรือทางอ้อม ให้แก่หรือเพื่อใช้ประโยชน์ในรัสเซียหรือประเทศหรือภูมิภาคอื่นใดที่อยู่ภายใต้มาตรการคว่ำบาตรซึ่งออกโดยสหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา หรือสหภาพยุโรป การกระทำดังกล่าวจะถือเป็นการละเมิดข้อกำหนดของมาตรการคว่ำบาตรเหล่านั้น หากดำเนินการโดยพลเมืองของประเทศเหล่านั้นหรือของประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป  

  • สินค้าจะไม่ถูกขาย จัดหา หรือส่งมอบทั้งโดยทางตรงหรือทางอ้อม ให้แก่บุคคลที่มีถิ่นพำนักอาศัยหรืออยู่ในรัสเซีย หรือประเทศหรือภูมิภาคอื่นใดที่อยู่ภายใต้มาตรการคว่ำบาตรซึ่งออกโดยสหราชอาณาจักร หรือให้แก่นิติบุคคลที่จดทะเบียนหรือมีที่อยู่ในรัสเซียหรือประเทศหรือภูมิภาคข้างต้น การกระทำดังกล่าวจะถือเป็นการละเมิดข้อกำหนดของมาตรการคว่ำบาตรเหล่านั้น หากดำเนินการโดยพลเมืองของสหราชอาณาจักร 

  • สินค้าจะไม่ถูกส่งออก ขาย หรือจัดหาและส่งมอบทั้งโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้แก่บุคคลภายนอก เว้นแต่บุคคลภายนอกดังกล่าวจะยอมรับข้อผูกมัดที่ระบุไว้ในหนังสือรับรองฉบับนี้ว่ามีผลผูกพันกับตนเอง และอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่ว่าบุคคลภายนอกนั้นเป็นผู้ที่ฝ่ายเราเชื่อถือและไว้วางใจได้ว่าจะปฏิบัติตามข้อผูกมัดดังกล่าว 

  • การละเมิดข้อผูกมัดข้อใดข้อหนึ่งจะถือเป็นการละเมิดสาระสำคัญของสัญญา และคุณมีสิทธิเรียกร้องการเยียวยาตามที่สมควร ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง การยกเลิกสัญญาและการเรียกเก็บค่าปรับ 

  • ลูกค้าของคุณจะต้องแจ้งให้คุณทราบทันทีหากพบปัญหาใด ๆ ในการปฏิบัติตามข้อผูกมัดที่ระบุไว้ในหนังสือรับรองฉบับนี้ รวมถึงกิจกรรมที่เกี่ยวข้องใด ๆ โดยบุคคลภายนอก ซึ่งอาจขัดขวางการปฏิบัติตามข้อผูกมัดดังกล่าว  

6.3. เครื่องมือคัดกรองข้อมูล 

มีเครื่องมือคัดกรองข้อมูลหลายประเภทที่ใช้สำหรับมาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติม เพื่อสนับสนุนธุรกิจในการตรวจสอบวิเคราะห์สถานะของลูกค้าอย่างรอบคอบ 

เครื่องมือที่แนะนำดังต่อไปนี้ไม่ใช่ทรัพยากรของรัฐบาลสหราชอาณาจักร และทำการดำเนินการโดยองค์กรภายนอก  ดังนั้น ทางรัฐบาลไม่สามารถรับรองความถูกต้องหรือความครบถ้วนของข้อมูลได้ 

เครื่องมือ คำอธิบาย
Open Sanctions ฐานข้อมูล Open Sanctions รวบรวมข้อมูลจากแหล่งข้อมูลสาธารณะเพื่อใช้ในการคัดกรองธุรกิจและพลเรือน
War Sanctions พอร์ทัล War Sanctions มีแหล่งข้อมูลที่หลากหลายเพื่อสนับสนุนธุรกิจในการตรวจสอบวิเคราะห์สถานะของคู่ค้า การลงทุนและข้อตกลงต่าง ๆ ที่อาจร่วมงานด้วยหรือทำในอนาคต
Trade Integrity Project (TIP) TIP คือฐานข้อมูลที่สามารถสืบค้นได้ ซึ่งระบุรายชื่อนิติบุคคลจากประเทศที่สามที่ได้ส่งสินค้าที่อยู่ในรายการสินค้าที่มีความเสี่ยงสูงไปยัง รัสเซียตั้งแต่ปี 2023 โดยอ้างอิงจากข้อมูลการค้าที่เผยแพร่เป็นสาธารณะ
KSE SelfSanctions and LeaveRussia ฐานข้อมูล SelfSanctions และ LeaveRussia ซึ่งจัดทำโดยสถาบันเศรษฐศาสตร์แห่งกรุงเคียฟ (KSE) รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทต่างชาติที่ยังดำเนินการในตลาดรัสเซีย โดยใช้ข้อมูลสนับสนุนจากงานวิจัยของมหาวิทยาลัยเยลที่ศึกษาเรื่องการถอนธุรกิจออกจากรัสเซีย

7. ลิงก์ที่เป็นประโยชน์  

ข้อความฉบับเต็มของกฎหมายคว่ำบาตรรัสเซียของสหราชอาณาจักร 

คำแนะนำว่าด้วยมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซียของสหราชอาณาจักร  

บัญชีรายการสินค้าที่มีความเสี่ยงสูง (CHPLs) 

บัญชีรวม เป้าหมายของมาตรการคว่ำบาตรทางการเงินของสหราชอาณาจักร (บุคคลที่ถูกกำหนด) 

คำแนะนำทั่วไปว่าด้วยมาตรการคว่ำบาตรทางการเงินของสหราชอาณาจักร 

คำแนะนำว่าด้วยมาตรการคว่ำบาตรทางการเงินต่อรัสเซียของสหราชอาณาจักร 

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับมาตรการคว่ำบาตรทางการเงินของสหราชอาณาจักร 

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซียของสหภาพยุโรป 

คำถามที่พบบ่อย เกี่ยวกับมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐอเมริกา 

หากต้องการรับข้อมูลที่ปรับปรุงให้เป็นปัจจุบันและรายละเอียดเกี่ยวกับการถูกกำหนดภายใต้มาตรการคว่ำบาตร โปรดสมัครรับการแจ้งเตือนทางอีเมลจากกระทรวงการต่างประเทศและการพัฒนาแห่งสหราชอาณาจักร

Updates to this page

เผยแพร่เมื่อ 27 มิถุนายน 2025

Print this page