ข่าวสารรอบโลก

ก้าวสู่ศตวรรษที่ 5 ความสัมพันธ์ไทย–อังกฤษ

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดนิทรรศการ “Forward into the 5th Century of Thailand-UK Relations 7 มีนาคม 2558 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี (ชั้น G)

เผยแพร่ภายใต้ 2010 to 2015 Conservative and Liberal Democrat coalition government
Forward into the 5th Century of Thailand-UK Relations

ประเทศอังกฤษและประเทศไทยได้ดำเนินความสัมพันธ์มาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลากว่า 4 ศตวรรษ บนพื้นฐานมิตรภาพระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศ การค้าการลงทุนระหว่างกัน และค่านิยมร่วมหลายประการ

นิทรรศการนี้บอกเล่าเรื่องราวโดดเด่นใน 5 แง่มุมของความสัมพันธ์อังกฤษและไทย ได้แก่:

  • การเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ระหว่างราชวงศ์ของสองประเทศ ซึ่งต่างเป็นราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ
  • วาระสำคัญทางประวัติศาสตร์ร่วมของอังกฤษและไทย
  • ความสัมพันธ์ด้านการค้าและการลงทุนระหว่างบริษัทและผู้ประกอบการของไทยและอังกฤษ
  • ความร่วมมือทางการศึกษาและวิทยาศาสตร์
  • ความชื่นชมในวัฒนธรรมและประเทศของกันและกัน

เป็นเวลากว่า 4 ศตวรรษ ที่ความสัมพันธ์ ไทย – อังกฤษ ได้ดำเนินมาอย่างยาวนานบนพื้นฐานของมิตรภาพอันยั่งยืนระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศ การลงทุนในอนาคตร่วมกัน และการมีค่านิยมร่วมกันในหลายๆ ด้าน

ไทยและอังกฤษต่างปกครองในระบอบราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ และองค์พระประมุขของทั้งสองประเทศต่างก็ครองราชย์มายาวนานทีสุดในโลก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่สอง ต่างทรงครองราชย์มายาวนานกว่า 60 ปี ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงยิ่งใหญ่ต่าง ๆ โดยทรงเป็นที่เคารพเทิดทูนของบรรดาพสกนิกรของพระองค์และผู้คนทั่วโลก

มิตรภาพระหว่างไทยและอังกฤษคือการแลกเปลี่ยนอย่างเสรีด้านแนวคิด เทคโนโลยี และวัฒนธรรม ซึ่งนับย้อนไปได้กว่า 400 ปี เมื่อปี พ.ศ. 2153 บริษัทบริติชอีสต์อินเดียได้ส่งเรือ เดอะ โกลบ นำพระราชสาส์นจากพระเจ้าเจมส์ที่ 1 มายังสยาม โดยได้เดินทางมาถึงในปี พ.ศ. 2155 ท่ามกลางพระราชพิธีต้อนรับอย่างอบอุ่น ด้านสยามเองก็ได้ส่งคณะทูตเดินทางครั้งประวัติศาสตร์ไปเข้าเฝ้าฯ พระเจ้าชาร์ลส์ ที่ 2 เมื่อปีพ.ศ. 2227 ก่อนเดินทางต่อไปเข้าเฝ้าฯ พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ณ พระราชวังแวร์ซายส์

ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศได้ดำเนินอย่างงดงามจากนั้นเป็นต้นมา ในปี พ.ศ. 2558 นี้ ถือเป็นวาระครบรอบ 160 ปีของสนธิสัญญาเบาว์ริ่งระหว่างไทยและอังกฤษ สาระสำคัญของสนธิสัญญาในครั้งนั้นยังส่งผลอยู่จนถึงปัจจุบัน นั่นคือการสถาปนาความสัมพันธ์ด้านการทูตถาวรผ่านการตั้งสถานกงสุลอังกฤษในกรุงเทพมหานคร และระบบระเบียบการค้าเสรีของสองประเทศ นักประวัติศาสตร์จำนวนมากยกย่องสนธิสัญญาฉบับนี้ว่าเป็นการปูทางสู่การเปิดเสรีทางการค้าทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และการจัดตั้งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี พ.ศ. 2558 จะเป็นก้าวย่างล่าสุดในกระบวนการที่ริเริ่มตั้งแต่หลายร้อยปีก่อนนี้

แน่นอนว่าความร่วมมือระหว่างสองประเทศที่เห็นเด่นชัดที่สุดและยังคงเฟื่องฟูอย่างต่อเนื่องคือความร่วมมือด้านการค้าการลงทุน ไทยและอังกฤษจะทุ่มเทเพื่อเพิ่มมูลค่าการค้าทวิภาคีขึ้นถึงสองเท่าเป็น 11,000 ล้านปอนด์ (หรือ 528,000 ล้านบาท) ภายในปี พ.ศ. 2561 และสนับสนุนการแลกเปลี่ยนอย่างเสรีด้านเทคโนโลยีและแนวปฏิบัติที่ดีเลิศทางธุรกิจ ผ่านการส่งเสริมการลงทุนระหว่างกันของภาคเอกชน บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง สหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด (มหาชน) ซีพี ฟู้ดส์ และไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ได้เข้าไปลงทุนและจ้างงานในสหราชอาณาจักรแล้วมากกว่า 1,000 ตำแหน่ง ในทางกลับกัน บริษัทจากสหราชอาณาจักร อาทิ เทสโก้ บู๊ทส์ และยูนิลิเวอร์ ก็ประสบความสำเร็จในการเข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทยตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา ถือเป็นการกระจายความมั่งคั่งสู่พนักงานชาวไทยหลายหมื่นคนเช่นกัน

ความสัมพันธ์ในเชิงเศรษฐกิจนี้พัฒนาขึ้นจากการติดต่อในระดับประชาชนที่เดินทางไปมาหาสู่ระหว่างสองประเทศ ชื่นชมความแตกต่าง ด้านสภาพอากาศ มรดกทางวัฒนธรรม และวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม ในแต่ละปีมีชาวอังกฤษเกือบ 1 ล้านคน เดินทางมายังประเทศไทย ขณะเดียวกันเมื่อปี 2013 ก็มีชาวไทยราว 70,000 คน เดินทางไปยังสหราชอาณาจักร นับว่าเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 17 จากปีก่อนหน้า และยังมีจำนวนมากที่ตัดสินใจเริ่มต้นชีวิตใหม่ในต่างแดน ทั้งชาวอังกฤษที่ตัดสินใจใช้ชีวิตในประเทศไทย และชาวไทยที่ตัดสินใจใช้ชีวิตในสหราชอาณาจักร สหราชอาณาจักรถือเป็นบ้านใหม่ที่คนไทยไปตั้งรกรากมากที่สุดนอกเหนือจากในเอเชียและอเมริกาเหนือ ขณะเดียวกันก็มีชาวอังกฤษกว่า 50,000 คนเลือกที่จะตั้งรกรากในประเทศไทยเช่นกัน

สำหรับชาวอังกฤษที่เดินทางมาไทย และชาวไทยที่เดินทางไปอังกฤษหลายต่อหลายคน เหตุผลในการเดินทางก็คือเพื่อเลือกซื้อสินค้า ในปี พ.ศ. 2557 นักท่องเที่ยวชาวไทยจับจ่ายใช้สอยเงินมากกว่า 100 ล้านปอนด์ (หรือประมาณ 5,000 ล้านบาท) ในสหราชอาณาจักร ในขณะเดียวกัน สินค้าแบรนด์ใหญ่ ๆ จากสหราชอาณาจักร ไม่ว่าจะเป็น Marks and Spencer, Topshop, และ Burberry ก็กลายเป็นที่แพร่หลายในประเทศไทย สินค้าจากสหราชอาณาจักรเป็นที่ยกย่องในเรื่องการออกแบบและคุณภาพ

ชาวไทยและชาวอังกฤษยังชื่นชอบวัฒนธรรมหลาย ๆ อย่างเหมือนกัน โดยที่เห็นชัดที่สุดก็คือ กีฬาฟุตบอล Premier League ทุกสุดสัปดาห์ผู้ชมกว่า 4,500 ล้านคนทั่วโลกต่างรวมตัวกันเฝ้าชมทีมโปรดลงดวลแข้งดุเดือดในสนาม และแฟนบอลชาวไทยก็เป็นกลุ่มแฟนที่เหนียวแน่นที่สุดกลุ่มหนึ่ง ขณะนี้ความรักในกีฬาฟุตบอลของชาวไทยได้ขยายไปสู่การเป็นเจ้าของสโมสรฟุตบอล อาทิ Leicester City และ Reading รวมถึงการเป็นสปอนเซอร์ให้กับสโมสรอย่าง Everton, Chelsea และ Manchester United

นอกจากฟุตบอลแล้ว ยังมีแง่มุมทางวัฒนธรรมอื่น ๆ ที่ไทยและอังกฤษได้แลกเปลี่ยนความชื่นชอบระหว่างกัน พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ได้ทรงแปลบทละครของเชคสเปียร์เป็นร้อยกรองไว้ถึง 3 เรื่อง และยังได้ทรงพระราชนิพนธ์นิทานทองอิน ซึ่งเป็นนวนิยายนักสืบเรื่องแรกของไทย โดยอาศัยเค้าโครงเรื่องเชอร์ล็อค โฮล์มส์ ส่วนในสหราชอาณาจักรนั้นมีวัดไทยให้เยี่ยมชมมากมาย ตั้งแต่เหนือสุดในกรุง Edinburgh จนถึงใต้สุดในเมือง Petersfield เขต Hampshire นอกจากนี้ อาหารไทยยังกลายเป็นที่ชื่นชอบอย่างมากทั่วสหราชอาณาจักร ไม่แพ้อาหารจีนและอินเดียซึ่งเป็นที่นิยมมายาวนาน

นอกจากการแลกเปลี่ยนสินค้าและวัฒนธรรมแล้ว ไทยและอังกฤษยังได้แลกเปลี่ยนความคิดกันอย่างเสรีผ่านทางความสัมพันธ์แน่นแฟ้นด้านการศึกษา ขณะนี้ประเทศไทยติดหนึ่งในสิบของประเทศที่มีนักเรียนอยู่ในสหราชอาณาจักรมากที่สุด โดยมีเยาวชนไทยกว่า 8 พันคนกำลังศึกษาในมหาวิทยาลัยและโรงเรียน ชั้นนำในสหราชอาณาจักร เพื่อสร้างอนาคตในการทำงานต่อไป เมื่อมองไปข้างหน้า ความร่วมมือระหว่างไทยและอังกฤษยังแผ่ขยายไปสำรวจแง่มุมใหม่ๆ ทางวิทยาศาสตร์และนวัตกรรมอีกด้วย ทั้งสหราชอาณาจักรและไทยจะร่วมกันลงทุนด้านงานวิจัยมากถึงประเทศละ 2 ล้านปอนด์ต่อปี (100 ล้านบาท) เป็นระยะเวลา 5 ปี ในโครงการต่างๆ ผ่านความร่วมมือที่เรียกว่า กองทุนเพื่อการวิจัยและนวัตกรรม Newton เพื่อร่วมหาแนวทางใหม่ๆ ในการแก้ไขปัญหาต่างๆ เพื่อประโยชน์ของประชาชนทั้งสองประเทศ

ความสัมพันธ์ไทย-อังกฤษดำเนินมาแล้วกว่า 4 ศตวรรษ และขณะที่เราร่วมกันก้าวเข้าสู่ศตวรรษที่ 5 นี้ เราจะก้าวต่อไปด้วยความเชื่อมั่นและมิตรภาพอันดีงามที่เราจะยืนหยัดมั่นคงบนรากฐานแข็งแรงแห่งประวัติศาสตร์อันยาวนานร่วมกัน และมองไปข้างหน้าสู่อีกหลายศตวรรษอันรุ่งโรจน์ที่จะมาถึง

นิทรรศการ “Forward into the 5th Century of Thailand-UK Relations” จัดขึ้นโดยความร่วมมือระหว่างสถานทูตอังกฤษ กรุงเทพ, บริติชเคานซิล และกระทรวงการต่างประเทศไทย ซึ่งจัดขึ้นระหว่าง 7 - 16 มีนาคม 2558

เผยแพร่เมื่อ 10 March 2015