ข่าวประชาสัมพันธ์

สถานทูตอังกฤษ กรุงเทพฯ ย้ายที่ทำการแห่งใหม่สู่ศตวรรษที่ 21

เจ้าหน้าที่ทางการทูตและเจ้าหน้าที่ฝ่ายกงสุลประจำสถานทูตอังกฤษ กรุงเทพฯ จะย้ายไปที่ทำการแห่งใหม่ในปี 2562 หลังสถานทูตขายที่ดินปัจจุบันไปในราคากว่า 420 ล้านปอนด์

เจ้าหน้าที่ทางการทูตและเจ้าหน้าที่ฝ่ายกงสุลประจำสถานทูตอังกฤษ กรุงเทพฯ จะย้ายไปที่ทำการแห่งใหม่ในปี 2562 หลังสถานทูตอังกฤษขายที่ดินอันเป็นที่ตั้งสถานทูตปัจจุบันให้กับกลุ่มบริษัทกิจการร่วมค้าเซ็นทรัลกรุ๊ปและฮ่องกงแลนด์ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือจาร์ดีน แมธทีสัน โดยขายไปในราคากว่า 420 ล้านปอนด์

การขายที่ดินครั้งนี้นับว่ามีมูลค่าสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย และเป็นการขายที่ดินครั้งใหญ่ที่สุดของกระทรวงการต่างประเทศสหราชอาณาจักร โดยกระทรวงการต่างประเทศจะนำรายได้นี้ไปลงทุนในอาคารและที่ดินของกระทรวงการต่างประเทศสหราชอาณาจักรในที่ต่าง ๆ ทั่วโลก และจะใช้พัฒนาสถานทูต 30-40 แห่งทั่วโลกให้ทันสมัย เพื่อเหตุผลด้านความปลอดภัยและความเหมาะสมต่อสุขภาพอนามัย

ที่ทำการสถานทูตอังกฤษแห่งใหม่จะย้ายไปที่อาคาร เอไอเอ สาทร ซึ่งอยู่ใจกลางย่านธุรกิจ โดยเจ้าหน้าที่ทางการทูตจะยังคงมุ่งส่งเสริมความร่วมมือระหว่างสหราชอาณาจักรประเทศไทยซึ่งเป็นพันธมิตรสำคัญในด้านความมั่นคงและมั่งคั่ง รวมทั้งยังจะดำเนินกิจการต่าง ๆ ของสหราชอาณาจักรในอาเซียนและในภูมิภาคต่อไป

มร. บอริส จอห์นสัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสหราชอาณาจักรกล่าวว่า:

อังกฤษเป็นประเทศผู้นำในเวทีโลกและผมเห็นเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่เจ้าหน้าที่ทางการทูตของเราจะต้องมีเครื่องมือทุกอย่างที่จำเป็นในการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการมีที่ทำงานที่ทันสมัย ปลอดภัย และเหมาะสมต่อการทำงาน ไม่เพียงแต่ในกรุงเทพฯ เท่านั้นแต่ยังรวมถึงในประเทศอื่นๆ ทั่วโลกด้วย

เจ้าหน้าที่ของสถานทูตอังกฤษในกรุงเทพฯ จะย้ายไปยังที่ทำการใหม่ที่ทันสมัยภายในปี 2562 การเปลี่ยนแปลงนี้จะยิ่งพัฒนาความสัมพันธ์ด้านการค้าและความสัมพันธ์ทวิภาคีกับประเทศไทยตลอดจนความสัมพันธ์ในภูมิภาคให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

มร. ไซมอน แมคโดนัลด์ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศสหราชอาณาจักร กล่าวว่า:

ในสภาพเศรษฐกิจเช่นนี้ เราจำเป็นต้องตัดสินใจในเรื่องที่ยากลำบาก เพื่อให้แน่ใจว่าสหราชอาณาจักรจะยังคงรักษาบทบาทในเวทีโลกไว้ได้ในขณะที่ใช้จ่ายเงินภาษีของประชาชนอังกฤษอย่างคุ้มค่าที่สุด

การย้ายสถานทูตครั้งนี้จะทำให้เรามีที่ทำการใหม่ที่ทันสมัยในกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นการยืนยันถึงความมุ่งมั่นระยะยาวของเราในการสานสัมพันธ์กับประเทศไทย ขณะเดียวกันก็ช่วยให้เรามีเงินทุนที่จำเป็นอย่างยิ่งในการปรับปรุงสถานทูตอื่น ๆ ทั่วโลกให้ทันสมัย รวมทั้งสถานทูตในกรุงไคโร กรุงนิวเดลี และกรุงวอชิงตัน

การขายที่ดินครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการพิจารณาทบทวนเรื่องที่ดินที่กระทรวงการต่างประเทศ สหราชอาณาจักรเป็นเจ้าของอยู่ทั่วโลก การพิจารณานี้ทางกระทรวงทำมาโดยตลอดเพื่อให้แน่ใจว่าเรายังคงมีฐานการปฏิบัติงานชั้นนำที่เหมาะสมเพื่อใช้ส่งเสริมกิจการของสหราชอาณาจักร และเพื่อให้การใช้จ่ายภาษีของประชนชนอังกฤษเกิดความคุ้มค่าสูงสุด

อาคารสถานทูตอังกฤษหลังปัจจุบันสร้างขึ้นตั้งแต่ปีพ.ศ. 2463 ตัวอาคารจำเป็นต้องพัฒนาและปรับปรุงในหลายด้านเพื่อให้เหมาะกับสภาพแวดล้อมการทำงานสมัยใหม่ ในขณะที่หลายส่วนของอาคารไม่สามารถใช้การได้อีกต่อไป

หลังจากที่ได้สำรวจทางเลือกต่างๆ ในการยกระดับสถานทูตอังกฤษในกรุงเทพฯ และหลังจากการประเมินราคาที่ดินสถานทูตโดยหน่วยงานอิสระ เราจึงตัดสินในขายที่ดินสถานทูตปัจจุบันให้กับกลุ่มบริษัทกิจการร่วมค้าเซ็นทรัลกรุ๊ปและฮ่องกงแลนด์ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือจาร์ดีน แมธทีสัน โดยได้มีการประมูลอย่างเปิดกว้าง

สถานทูตอังกฤษแห่งใหม่จะย้ำความมุ่งมั่นของสหราชอาณาจักรในการสืบสานความสัมพันธ์ระยะยาวกับประเทศไทยซึ่งเป็นพันธมิตรสำคัญในด้านความมั่นคงและความเจริญมั่งคั่ง ทั้งยังเป็นประเทศผู้นำในภูมิภาคอาเซียน

เราจะยังคงเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางการค้าผ่านสภานักธุรกิจไทย-สหราชอาณาจักรที่เพิ่งจัดตั้งใหม่ ประกอบกับความร่วมมือที่แข็งแกร่งด้านวิทยาศาสตร์และนวัตกรรมผ่านกองทุนนิวตันสำหรับประเทศไทยซึ่งมีมูลค่า 3 ล้านปอนด์

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ทางการทูตของเราจะยังคงร่วมมือกับทางการไทยในภารกิจป้องกันการล่วงละเมิดเด็ก ปราบปรามอาชญากรรมในลักษณะองค์กร การฟอกเงินและการค้ามนุษย์ อีกทั้งเรายังคงให้ความสำคัญกับการสนับสนุนนักต่อสู้ด้านสิทธิมนุษยชน การส่งเสริมเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น และสนับสนุนให้ประเทศไทยร่วมมือตามกระบวนการประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชน Universal Periodic Review (UPR) อย่างเต็มที่

ข้อมูลเพิ่มเติม

  • ทวิตเตอร์กระทรวงการต่างประเทศสหราชอาณาจักร @foreignoffice และ Facebook
  • ทวิิตเตอร์แนะนำข้อมูลการเดินทางโดยกระทรวงการต่างประเทศสหราชอาณาจักร @fcotravel
  • อินสตาแกรมกระทรวงการต่างประเทศสหราชอาณาจักร Instagram, YouTube และ LinkedIn
เผยแพร่เมื่อ 31 January 2018