สถานทูตอังกฤษเดินหน้างานด้านความปลอดภัยบนท้องถนน
สถานเอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทยร่วมกับมูลนิธิป้องกันอุบัติภัยแห่งเอเชีย จัดพิธีมอบหมวกนิรภัยให้โรงเรียนวัดชัยมงคล
สถานเอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทยร่วมกับ มูลนิธิป้องกันอุบัติภัยแห่งเอเชีย จัดพิธีมอบหมวกนิรภัยจำนวน 230ใบให้เด็กนักเรียน และครูโรงเรียนวัดชัยมงคล กรุงเทพฯ ในโครงการ “เดินทางปลอดภัยสวมหมวกนิรภัยมาโรงเรียน” เพื่อเพิ่มอัตราการสวมหมวกนิรภัย ให้ความรู้เกี่ยวกับความปลอดภัยบนท้องถนน และลดอัตราการตายและบาดเจ็บในกลุ่มเด็ก โครงการความร่วมมือนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลอังกฤษในการรณรงค์เรื่องความปลอดภัยบนท้องถนนในประเทศไทย อีกทั้งยังชี้ให้เห็นว่าสถานเอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทยให้ความสำคัญกับชุมชนบริเวณใกล้เคียง
โรงเรียนวัดชัยมงคล ตั้งอยู่ในแขวงรองเมือง กรุงเทพฯ ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย ตั้งอยู่ใกล้ชุมชนดังกล่าว อีกทั้งยังมีนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษเดินผ่านชุมชนแห่งนี้เป็นประจำ ชุมชนนี้มีตลาดที่เป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยว คนในชุมชนจึงคุ้นเคยกับนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษเป็นอย่างดี สถานเอกอัครราชทูตอังกฤษฯ จึงสนับสนุนโครงการ “เดินทางปลอดภัยสวมหมวกนิรภัยมาโรงเรียน” ที่ดำเนินงานโดยมูลนิธิป้องกันอุบัติภัยแห่งเอเชีย เพื่อรณรงค์ความปลอดภัยของเด็กนักเรียนในชุมชน สร้างความตระหนักเรื่องความปลอดภัยบนท้องถนน
มร. มาร์ค เคนท์ เอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และนายพรพจน์ เพ็ญพาส รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย ได้ให้เกียรติเข้าร่วมพิธีมอบหมวกนิรภัย นอกจากนี้ มร. เกรก คราฟท์ ประธานมูลนิธิป้องกันอุบัติภัยแห่งเอเชีย ให้เกียรติสาธิตการสวมหมวกนิรภัยอย่างถูกวิธีให้แก่เด็กนักเรียน ผู้เข้าร่วมงานได้รับความเพลิดเพลินจากการแสดงและแฟชั่นโชว์ของเด็กนักเรียนเกี่ยวกับหมวกนิรภัยและความปลอดภัยทางถนน
มร. มาร์ค เคนท์ เอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศ ได้กล่าวถึงโครงการว่า
ทางเรามีความยินดีที่ได้มีโอกาสร่วมมือกับชุมชนโดยรอบในเรื่องความปลอดภัยบนท้องถนน ปัจจุบันมีชาวอังกฤษประมาณ 50,000 คน พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย และในแต่ละปี มีนักท่องเที่ยวกว่า 870,000 คน เดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย ในปี 2554 มีอุบัติเหตุบนท้องถนนกว่า 68,582 ครั้ง ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 14,033 คน อุบัติเหตุบนท้องถนนมีผลกระทบต่อคนไทย ชาวต่างชาติ และนักท่องเที่ยว ด้วยเหตุนี้ ทุกฝ่ายจึงต้องร่วมมือกันเพื่อทำให้ประเทศไทยมีความปลอดภัยทางถนนมากขึ้น
ในขณะที่กฎหมายของประเทศไทย ระบุให้ผู้ขับขี่และผู้ซ้อนท้ายสวมหมวกนิรภัย แต่จากสถิติมีเพียง 43 เปอร์เซ็นต์ของผู้ใช้รถมอเตอร์ไซค์เท่านั้นที่สวมหมวกนิรภัย สำหรับในกลุ่มเด็ก อัตราการสวมหมวกนิรภัยลดลงเหลือเพียง 8 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น หลายครอบครัวละเลยว่าการสวมหมวกนิรภัยเป็นสิ่งจำเป็นและมิได้ตระหนักถึงอุบัติภัยบนท้องถนน โครงการ “เดินทางปลอดภัยสวมหมวกนิรภัยมาโรงเรียน” ยังเน้นการมีส่วนร่วมจากพ่อแม่ผู้ปกครอง เพื่อให้เห็นความสำคัญในการปกป้องชีวิตลูกหลานจากอุบัติภัยบนท้องถนน ในขณะเดียวกัน ยังให้ความรู้แก่นักเรียนเกี่ยวกับความปลอดภัยบนท้องถนนและวิธีการสวมหมวกนิรภัยที่ถูกต้องเพื่อป้องกันอุบัติที่อาจถึงแก่ชีวิตได้
นางรัตนวดี เหมนิธิ วินเธอร์ ผู้อำนวยการประจำประเทศไทย มูลนิธิป้องกันอุบัติภัยแห่งเอเชีย ได้กล่าวถึงความสำคัญของการสวมหมวกนิรภัยของเด็กๆ ว่า
เยาวชนถือเป็นสิ่งที่มีค่ามากที่สุดในสังคมเรา เมื่อเราตระหนักได้ว่าการสวมหมวกนิรภัยเป็นเรื่องที่สำคัญ เราจึงควรรณรรงค์การสวมหมวกนิรภัยให้กับเด็กๆ เพื่อป้องกันเยาวชนจากอุบัติเหตุบนท้องถนน โครงการ “เดินทางปลอดภัยสวมหมวกนิรภัยมาโรงเรียน” จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้ผู้ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ ผู้ขับขี่รถจักรยาน รวมถึงคนเดินถนนอีกด้วย
ข้อมูลเพิ่มเติม
เกี่ยวกับมูลนิธิป้องกันอุบัติภัยแห่งเอเชีย
มูลนิธิป้องกันอุบัติภัยแห่งเอเชีย จดทะเบียนในประเทศสหรัฐอเมริกา เลขที่ 501 (ซี)(3) เป็นองค์กรไม่แสวงหากำไร ซึ่งใช้กลไกการทำงานเพื่อสังคมร่วมกับภาคเอกชน การให้การศึกษาและสร้างความตระหนักต่อสาธารณชน และการทำโครงการภายในโรงเรียน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลด อัตราการบาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนถนน ในประเทศกำลังพัฒนา มูลนิธิฯ มีสำนักงานใน ฮานอย และโฮจิมินห์ซิตี้ ประเทศเวียดนาม พนมเปญ ประเทศกัมพูชา กรุงเทพฯ ประเทศไทย และในปี 2544 มูลนิธิได้สร้างโรงงานผลิตหมวกนิรภัยที่ไม่แสวงหากำไร ผลิตหมวกนิรภัยยี่ห้อ โพรเทค ในประเทศเวียดนาม ซึ่งเป็นหมวกนิรภัยเพื่อประเทศในเขตร้อน หมวกนิรภัยเหล่านี้ ออกแบบให้เหมาะกับสิ่งแวดล้อม ปลอดภัย และสามารถหาซื้อได้ในราคายุติธรรม เป็นทางเลือกสำหรับผู้ใช้มอเตอร์ไซค์และจักรยาน ในปี 2552 มูลนิธิฯ ร่วมมือกับมูลนิธิเอฟไอเอ และธนาคารโลก เปิดตัวโครงการวัคซีนหมวกนิรภัยสากล (จีเอชวีไอ) ซึ่งเป็นการร่วมมือระหว่างประเทศโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ “ให้ทุกคนสวมหมวกนิรภัยภายในทศวรรษความปลอดภัยทางถนน (2554-2563)”
เกี่ยวกับสถานเอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย
สถานเอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย เป็นตัวแทนรัฐบาลสหราชอาณาจักรในประเทศไทย ดูแลด้านความสัมพันธ์ระหว่าง สองประเทศ นอกจากนี้ยังดูแลนโยบายด้านต่างๆ ซึ่งครอบคลุมด้านการเมือง เศรษฐกิจ ความมั่นคง การค้าการลงทุน รวมถึงการบริการด้านวีซ่าและการบริการด้านกงสุล ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา สถานเอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทยรณรงค์ด้านความปลอดภัยบนท้องถนน ด้วยมีนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ เดินทางมายังประเทศไทยเพิ่มขึ้นในแต่ละปี ซึ่งการรณรงค์ด้านความปลอดภัยบนท้องถนนนี้มิได้จำกัดอยู่ที่นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมถึงชาวอังกฤษที่พำนักอาศัยในประเทศไทยอีกด้วย
อัปเดตล่าสุดเมื่อ 28 October 2013 + show all updates
-
Added translation
-
Added translation